ม็อบ 19 ก.ย. แค่อุ่นเครื่อง ของจริง‘ตุลาคม’

การชุมนุมที่ว่าคือ การชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาในนาม “แนวร่วมกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม” ที่นำโดย นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง แกนนำกลุ่มเยาวชนภาคตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย ที่ประกาศมาเนิ่นนานแล้วว่า จะจัดชุมนุมใหญ่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ด้วยสโลแกนที่ว่าเพื่อ “ทวงอำนาจคืนราษฎร”

แม้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะไม่อนุญาตให้มี การจัดกิจกรรมชุมนุมทางการเมืองในวันที่ 19 กันยายน 2563 เนื่องจากการขออนุญาตดังกล่าว ยังไม่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่มีการประกาศเรื่องแนว ทางการอนุญาตจัดชุมนุมทาง การเมือง 

แต่แกนนำนักศึกษาก็ไม่สนคำสั่งห้ามดังกล่าว ยังประกาศที่จะจัดชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ให้ได้ ถึงกับประกาศเอาไว้แล้วว่า หากมีการ “ล็อกประตู่” ก็จะตัดกุญแจ พังประตู เข้าไป 

การชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 กันยายนนี้ แกนนำผู้ชุมนุม คาดว่าจะมีผู้มาร่วมชุมนุม 50,000-100,000 คน 

ด้านความเคลื่อนไหวในการเตรียมคนเข้ามาร่วมชุมนุม ใหญ่นั้น เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2563 เพจเฟซบุ๊ก คณะก้าวหน้า-Progressive Movement ของ “คณะก้าวหน้า” ที่มี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นประธาน และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นเลขาธิการ ได้โพสต์ข้อความเชิญชวนมวลชนให้เข้ามาร่วมชุมนุมในครั้งนี้ โดยมีรายละเอียดว่า 

“บนเส้นทางประชาธิปไตย ที่เดินมา 88 ปี ใกล้ถึงเส้นชัยเต็มที 19 กันยายนนี้ ในวันที่ถนนทุกสายมุ่งหน้าสู่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ใครมีรถ อยากหาเพื่อนร่วมทาง ใครมีเพื่อนร่วมทาง แต่ยังไม่มีรถ ใครยังไม่มีอะไรเลย แต่มีใจรักที่จะมาร่วมชุมนุมกับผองเพื่อน คณะก้าวหน้าขอมีส่วนร่วมในการอำนวยความสะดวกให้พี่น้องผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน ด้วยการเปิดพื้นที่สำหรับการ car pool แชร์รถ แชร์ค่าเดินทาง เพื่อมาร่วมชุมนุม ในวันที่ 19 กันยายนนี้ ทางเดียวกัน มาด้วยกัน สู่เส้นชัยในวันที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน”

 

 

ม็อบ 19 ก.ย. แค่อุ่นเครื่อง

ด้านแหล่งข่าวจากฝ่าย ความมั่นคง ประเมินสถานการณ์การชุมนุมในวันที่ 19 กันยายนนี้ว่า เป็นเพียงการทดลองรวมตัวและเคลื่อนขบวนมาที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะต่อรองให้กลุ่มผู้ชุมนุมส่งตัวแทนเดินทางมายื่นหนังสือ แต่หากกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมและจะเคลื่อนขบวนมาทั้งหมด ก็จะให้อยู่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ เนื่องจากตามกฎหมายการชุมนุมต้องอยู่ห่างจากทำเนียบรัฐบาล 50 เมตร และห่างจากเขตพระราชฐาน 150 เมตร

ส่วนข้อสังเกตที่ว่าจะมีการใช้ “ยุทธการมัฆวานรังสรรค์” นั้น ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้มองผู้ชุมนุมเป็นศัตรู เพราะคำว่า “ยุทธการ” จะเอาไว้ใช้รบกับข้าศึกเท่านั้น ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะใช้พื้นที่สนามหลวงในการชุมนุมนั้น ขณะนี้พื้นที่สนามหลวงแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนอีกด้านหนึ่งสามารถใช้ชุมนุมได้

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายความมั่นคงชี้ว่า การชุมนุมครั้งนี้เปรียบเสมือนเป็นการซ้อมใหญ่ก่อนที่จะมีการนัดชุมนุมจริงในช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่สภาฯ จะมีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดย 4 ญัตติที่ฝ่ายค้านเสนอ หากพิจารณาดูรายละเอียดแล้วทางสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) คงโหวตคว่ำร่างไม่เอาด้วย ก็จะเข้าทางกลุ่มผู้ชุมนุมใน 1 เงื่อนไขทันที ที่ไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องได้ 

 

 

แก้รธน.เกมการเมือง

ก่อนหน้านั้น นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) วิเคราะห์ถึงการยื่นญัตติ ร่างแก้รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา เพิ่มเติมเข้ามาอีก 4 ญัตติของ พรรคร่วมฝ่ายค้านว่า 4 ประเด็นที่ฝ่ายค้านยื่นมาดูแล้วมีเจตนาต้อง การไม่ให้ส.ว.ผ่านการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อโยนความผิดให้ ส.ว.เป็นผู้ล้มการแก้รัฐธรรมนูญ ทำตามใบสั่งรัฐบาล เพราะรู้อยู่แล้วว่า ญัตติที่ยื่นมาใหม่ ส.ว.ไม่เอาด้วยแน่ เนื่องจากประเด็นที่ยื่นมาต้องการสร้างความขัดแย้งให้เพิ่มขึ้น แต่ ก็ยังยื่นมา 

แต่ ส.ว.รู้ทันเรื่องนี้ว่าเป็นการเล่น “เกมการเมือง” ถ้า ส.ว.ยอมจะยิ่งสร้างปัญหาทั้งเรื่องการตัดอำนาจ ส.ว. เรื่องการติดตามปฏิรูปประเทศ และการล้างคำสั่งประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  (คสช.) เพราะเป็นการรื้อปัญหาที่จบไปแล้ว กลับมาใหม่  

“ขณะนี้ยังไม่ทราบว่า ส.ว. จะรับ 4 ญัตติที่ยื่นมาหรือไม่ แต่เท่าที่คุยกับ ส.ว.หลายคนไม่เห็นด้วยกับญัตติที่ฝ่ายค้านยื่นมาเช่นกัน ถ้าให้วิเคราะห์เชื่อว่า ส.ว.จะไม่รับทั้ง 4 ญัตติ รวมถึงการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มายก ร่างใหม่ด้วย ส่วนผมโหวตไม่รับทั้ง 4 ญัตติแน่นอน ขณะนี้เป็นเวลาที่ประเทศเผชิญวิกฤติิหลายเรื่อง ควรนำเวลาไปแก้ปัญหาประเทศก่อน ไม่ใช่มาเล่นการเมืองขับไล่รัฐบาล รัฐธรรมนูญฉบับนี้เพิ่งใช้ได้ไม่นาน ทำไมรีบแก้” นายเสรี ระบุ

ทั้งนี้ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมกันเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 จำนวน 4 ฉบับ ต่อนายชวน หลีกภัย ประธาน รัฐสภา โดยเป็นการแก้

1. การแก้ไขมาตรา 272 และ 159 ว่าด้วยการให้ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรี 2. มาตรา 270 และ 271 ว่าด้วยการปฏิรูปประเทศ 3. มาตรา 279 ว่าด้วยการรับรองคำสั่งและประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ 4. การแก้ไขระบบเลือกตั้ง ส.ส.

 

 

ตร.จะไม่สร้างเงื่อนไข

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการเตรียมรับมือการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 กันยายนนี้ ว่าได้รับทราบจากฝ่ายข่าวว่าจะมีการชุมนุมในพื้นที่ มธ.ท่าพระจันทร์ ใช้เวลาไม่เกิน 2 วัน แต่หากการเคลื่อนขบวนออกมานอกพื้นที่ เจ้าหน้าที่ก็จะคุยกับแกนนำผู้ชุมนุมหน้างาน

ผบ.ตร. กล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กำชับให้เจ้าหน้าที่ใช้ความอดทนและอย่าใช้ความรุนแรง เพราะนายกฯ เป็นห่วงเรื่องการปะทะและการยื้อยุดฉุดกระชาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ตำรวจพยายามหลีกเลี่ยงอยู่แล้ว

“ตำรวจไม่สร้างเงื่อนไขแน่นอน รู้อยู่แล้วว่าผู้ชุมนุมเป็นอย่างไร เราระวังตัวอยู่แล้ว ทุกม็อบจะมีแกนนำ มีคนประสานกันอยู่แล้ว อะไรทำได้หรือไม่ได้ก็หารือกัน ไม่ว่าม็อบอะไรเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ระบุ ทั้งบอกว่าในวันชุมนุมจะเดินทางไปบัญชาการเหตุการณ์ในพื้นที่ด้วยตัวเอง

อย่างก็ตาม ผบ.ตร.ฝากถึงผู้จัดการชุมนุมว่า ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย และ “ไม่อยากเห็นน้องๆ อยู่ในสถานการณ์แบบแกนนำในอดีตที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล เป็นความห่วงใยจากตำรวจผู้บังคับใช้กฎหมาย”

19 กันยายน ผลแห่งการชุมนุมใหญ่ของ “นักศึกษา” จะสร้าง แรงกดดันให้กับรัฐบาล หรือต่อข้อเรียกร้องของพวกเขามากน้อยแค่ไหน ปลายสัปดาห์นี้ได้รู้กัน... 

 

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,610 หน้า 10 วันที่ 17 - 19 กันยายน 2563