ยุทธภพผู้มีอิทธิพล “บ้านใหม่”หัก“บ้านใหญ่”! ปฏิบัติการดับชีพ สจ.โต้ง

24 ธ.ค. 2567 | 06:59 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ธ.ค. 2567 | 07:28 น.

ยุทธภพผู้มีอิทธิพล “บ้านใหม่”หัก“บ้านใหญ่”! ปฏิบัติการดับชีพ สจ.โต้ง : คอลัมน์ข่าวห้ามเขียน โดย...พรานบุญ ฐานเศรษฐกิจออนไลน์

KEY

POINTS

  • การดับชีพ สจ.โต้ง ได้ส่งผลให้ภาพความเป็นจริง ในเรื่อง “อำนาจ-บารมี-อิทธิพล-นักการเมือง-ซุ้มมือปืน-การเรียกรับผลประโยชน์-การฮั้วที่ไม่ลงตัว” ที่ฝังรากลึกในแทบทุกพื้นที่ของประเทศไทย กระจ่างชัดขึ้นในสายตาประชาชน
  • เมื่อ “บ้านใหม่” ท้าทายอำนาจ “บ้านใหญ่” ปฏิบัติการหักกันเพื่อชำระสิ่งที่ทิ่มตำใจจึงเกิดขึ้น!!

ปรากฏการณ์ตำรวจเข้าควบคุมตัว "สุนทร วิลาวัลย์" นายก อบจ.ปราจีนบุรี พร้อมผู้ต้องสงสัย 7 คน หลังเกิดเหตุยิงภายในบ้านพักของนายสุนทร วิลาวัลย์ และ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ ในพื้นที่ อ.เมืองปราจีนบุรี จนเป็นเหตุให้ สจ.โต้ง-นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เมื่อ วันที่ 11 ธ.ค. 2567 

การดับชีพ สจ.โต้ง ได้ส่งผลให้ภาพความเป็นจริง ในเรื่อง “อำนาจ-บารมี-อิทธิพล-นักการเมือง-ซุ้มมือปืน-การเรียกรับผลประโยชน์-การฮั้วที่ไม่ลงตัว” ที่ฝังรากลึกในแทบทุกพื้นที่ของประเทศไทย กระจ่างชัดขึ้นในสายตาประชาชน

ระยะต้น ผู้คนส่วนใหญ่อาจให้ความสนใจในเรื่อง ที่มาของความขัดแย้ง จนนำมาซึ่งการยิงอย่างโหดเหี้ยมในบ้านของ “โกทร” ว่า มูลเหตุการสังหารมาจากความขัดแย้งส่วนตัว ระหว่าง นายชัยเมศร์ หรือ สจ.โต้ง กับสองมือปืน  

แต่จากแนวทางสืบสวน คำให้การของบุคคลใกล้ชิด ตลอดจนพยานแวดล้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า คำให้การของกลุ่มผู้ต้องหา เป็นการสมอ้าง หรือ ยอมรับความผิด เพื่ออำพรางมูลเหตุทางคดีที่แท้จริง เพื่อปกป้องผู้ต้องหาบางรายไม่ให้ถูกดำเนินคดี  

ทางตำรวจเชื่อว่า การสังหาร สจ.โต้ง ครั้งนี้มีการวางแผนตระเตรียมการมาก่อนเป็นอย่างดี ไม่ใช่เหตุการซึ่งหน้า และทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็นกับการก่อเหตุอย่างแน่นอน

เป็นที่รู้กันในพื้นที่ปราจีนบุรีว่า “สจ.โต้ง-ชัยเมศร์ กับ ตึ๋ง-อุทิศ ฤทธิ์เดช” สองพี่น้อง เปรียบเหมือนมือขวามือซ้ายของ นายสุนทร วิลาวัลย์ พ้นจากนี้ก็มี สจ.อุ๊-นายกฤษฏิ์ กษมพันธุ์ รองนายก อบจ.ปราจีนบุรี นี่แหละเป็นพลังให้กับนายสุนทร มาโดยตลอด

คนในพื้นที่ปราจีนบุรี บางคล้า กบินท์บุรี ประจันตคาม ศรีมหาโพธิ์ รับรู้กันไปทั่วว่า สจ.โต้ง กับ นายสุนทร มีทั้งความรัก ความชัง เกิดการกินแหนงแคลงใจกันมานานหลายปี เพราะระยะหลัง สจ.โต้ง เบ่งบานบารมีออกไปจนคับใหญ่ไปถึงเมืองหลวง จนเทียบรอยเท้าลูกพี่บ้านใหญ่

ระยะ 5 ปี ที่ผ่านมา สจ.โต้ง โด่งดังในแวดวงอุตสาหกรรม ก่อสร้าง ยุทธภพของวงการการมวย ด้วยความเด็ดขาด ถึงลูกถึงคน ใจถึง พึ่งได้ ยอมกลืนเลือดเพื่อรักษาคำพูด  

ขณะที่ “โกทร” ผู้เป็นนักการเมืองใหญ่ และเป็นขาใหญ่ตัวจริงมาอย่างยาวนาน เริ่มโรยลา บารมีถดถอย ถึงขนาดบางช่วงจังหวะต้องหนีไปพักตัว 

วงการนักเลง แวดวงคนเลือดนักสู้ ตลอดจนคนที่เป็นไอ้เสือร้าย รู้ว่าป่าถิ่นไหนควรพักกาย พักใจ แล้วมีคนคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย  

นับตั้งแต่ สจ.โต้ง ได้รับการปล่อยตัวในคดีฮั้วประมูลเมื่อหลายปีก่อน ก็เริ่มทำตัวห่างเหินจากบ้านของนายสุนทร 

                                 ตำรวจคุมตัว สุนทร วิลาวัลย์

ประกอบกับเวลาที่ นายสุนทร จะเรียกให้ สจ.โต้ง เข้าไปพบ ก็มีแต่เรื่องจะใช้งาน หรือ ขอเงินจาก สจ.โต้ง จึงทำให้ สจ.โต้ง พยายามตีตัวออกห่าง แยกตัวออกมา แม้จะเข้าเยี่ยมเยียนนายสุนทรในบ้านบ้างเป็นครั้งคราว 

แต่ สจ.โต้ง กลับคบหาสมาคมกับผู้คนในยุทธภพ คนใจถึงพึ่งได้ กล้าได้กล้าเสียมากขึ้น เลี้ยงบรรดาลิ่วล้อ ลูกน้อง มากขึ้นๆ และแต่ละคนล้วนมือถึง ใจถึง เห็นได้จากการปรากฏกายในสนามมวยในเมืองกรุงแทบทุกสัปดาห์

“สจ.โต้ง” สร้างตัวในยุทธภพ จนสนิทแนบแน่นกับ “สจ.เปี้ยก” และ “สจ.ต้อย” จนเป็น 3 เกลอหัวแข็งใน 3 จังหวัด  

สจ.โต้ง รู้จักมักคุ้นกับหัวหน้าค่ายมวยทุกคน “สจ.เปี้ยก-ปภาวิชญ์ บุษวะดี” หัวหน้าค่ายมวย “สจ.เปี๊ยกอุทัย” คนดังรุ่นใหม่แห่งลุ่มน้ำสะแกกรัง เป็น ส.อบจ.อุทัยฯ เขต อ.เมือง มาหลายสมัย ปัจจุบัน เป็นประธานสภา อบจ.อุทัยธานี

อันว่า “สจ.เปี๊ยก กับ ดาด๊าชาดา” ถือว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ด้วยคอนเนกชั่นนี้แหละนำพาให้ “ชาดา-สจ.เปี๊ยก” มารู้จัก “สจ.โต้ง” จนผูกพันเป็นพี่น้องใจคอเดียวกัน

ขณะที่ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ และ “สส.ต้อย-ชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์” สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาตินั้น สนิทแนบแน่นกันอย่างยิ่ง ชนิดที่แทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน รู้จักกับ “สจ.โต้ง” ในวงการมวย วงการคนใจถึงพึ่งได้ 

“ชัยวัฒน์” รู้จักกันทั่วยุทธภาพแปดริ้วยันเมืองหลวง เป็นเจ้าของค่ายมวยในนาม “สจ.ต้อยแปดริ้ว” และโปรโมเตอร์มวยไทย “ศึก ต.ชัยวัฒน์” แห่งเวทีราชดำเนิน เมื่อได้เป็น สส.สมัยแรก “ชัยวัฒน์” ลาออกจากการเป็นโปรโมเตอร์มวยเวทีมวยราชดำเนินเมื่อปี 2562 

สจ.ต้อย เป็นลูกชายสุดรักของ “นายกฯไก่-กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์” นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา 5 สมัย ที่โลดแล่นในเวทีการเมือง 

“เสี่ยเฮ้ง-สุชาติ” ขาใหญ่บ้านใหม่เมืองชล เคยตามจีบ “สจ.โต้ง” ให้มาทำการเมืองซุ้มเดียวกัน เนื่องจากมีพื้นที่ติดกันทั้ง จ.ชลบุรี จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.ปราจีนบุรี  เพราะ “สุชาติ” วางแผนยึดพื้นที่ภาคตะวันออก

ทั้ง “ชาดา-สุชาติ” ต่างเป็น “เสือ” ในยุทธภพการเมืองปัจจุบัน

ระยะเวลาร่วม 10 ปีที่ผ่านมา “สจ.โต้ง” ได้สร้าง “เครือข่ายบ้านใหม่” ผ่านยุทธภพของคนใจถึง พึ่งได้ มีหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่เข้าไปเกี่ยวพันกับธุรกิจพิเศษ 

ใครก่อสร้าง ใครรับเหมา ใครสร้างโรงงาน ใครมีโครงการ ต้องใช้บริการเครือข่าย “บ้านใหม่ สจ.โต้ง” ไม่เช่นนั้น อย่าว่าแต่จะลงมือทำงานเลย แม้แต่ "รถยนต์ เครื่องจักรก็เคลื่อนไม่ได้”

                         ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า  ชาดา ไทยเศรษฐ์ สุชาติ ชมกลิ่น ร่วมพิธีเผาศพ สจ.โต้ง-ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์

 

สำหรับประวัติของ สจ.โต้ง-เต็มพงษ์ ฤทธิ์เดช หรือชื่อใหม่ นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ ซึ่งเปรียบเสมือนมือขวาของนาย สุนทร นั้น ไม่ธรรมดา ปัจจุบันอายุ 48 ปี เป็นทั้งโปรโมเตอร์มวย และส.อบจ.ปราจีนบุรี หลายสมัย ยกเว้นสมัยที่แล้ว สจ.โต้ง ไม่ได้ลงสนามเลือกตั้ง

ปี 2555 สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตอนที่ “พล.ต.ท.วินัย ทองสอง” ผบช.ภ.2 เปิดยุทธการปราจีนโมเดล นำกำลังตำรวจเข้าตรวจค้นจับกุมเป้าหมายเครือข่ายอิทธิพลใหญ่ที่สุดใน จ.ปราจีนบุรี โดย สจ.โต้ง ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฮั้วประมูล

ปี 2557 ศาลอาญา ยกฟ้อง คดี สจ.โต้ง กับพวกรวม 5 คน ฮั้วประมูลโครงการก่อสร้าง ชี้ไม่มีประจักษ์พยานยืนยันว่า จำเลยขัดขวางการฮั้วประมูล 

ปี 2563 ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด บังอร วิลาวัลย์ อดีตนายก อบจ.ปราจีนบุรี กับพวก 19 ราย ฮั้วประมูล 15 โครงการ และมีชื่อ สจ.โต้ง รวมอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย 

แม้สมัยนี้ สจ.โต้ง จะไม่มีตำแหน่ง ส.อบจ.ปราจีนฯ แต่ก็ยังทำกิจกรรมในนามคณะผู้ใจบุญ และเป็นตัวแทนคอยช่วยเหลือชาวบ้านผู้ตกทุกข์ได้ยาก และเจ้าของค่ายมวย ส. “สจ.โต้งปราจีน” จนมีชื่อเสียง ขึ้นชั้นไม่แพ้ค่ายมวยใหญ่ในเมืองหลวง ส่งนักมวยเข้าร่วมในรายการใหญ่ของเสี่ยชุ้น เกียรติเพชร 

ระยะกลาง ภาพที่กระจ่างชัดจะเห็นภาพปมใหญ่ที่นำมาสู่การดับชีพ ที่ไม่พ้นกรณี “การลงชิงเก้าอี้นายก อบจ.ปราจีนบุรี” และการคุมบ้านใหญ่ในสังกัดเพื่อเป็นฐานการเมืองที่เป็นการช่วงชิงเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในระดับประเทศ 

ก่อนหน้านี้ นายสุนทร ประกาศวางมือ และขอเงินจาก สจ.โต้ง ไปราว 10 ล้านบาท ต่อมา นายสุนทร ขอเรียกเงินเพิ่มเป็น 20 ล้านบาท แลกกับการเปิดโอกาสให้ สจ.จอย น.ส.ณภาภัช อัญชลาณิชมน ภรรยาของ สจ.โต้ง ได้ลงสมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.ปราจีนบุรี จึงมีการไปพบ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า 

ผู้กองฯ นี่แหละ เป็นคนพา “สจ.โต้ง-สจ.จอย” ไปกราบนายใหญ่ เพื่อสมัครเป็นสมาชิกพรรค 

ประกอบกับ สจ.โต้ง ทราบข่าวภายหลังว่า นายสุนทร วางแผนให้ “สจ.อุ๊-นายกฤษฏิ์ กษมพันธุ์” รองนายก อบจ.ปราจีนบุรี ลงเลือกตั้งแข่งกับภรรยาของตนเอง สจ.โต้ง จึงเกิดความไม่พอใจ  

                               สจ.โต้ง-ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ ผู้กว้างขวางแห่งวงการมวย

จุดแตกหักของความบาดหมางระหว่าง “บ้านใหญ่ปราจีนบุรี” กับ “สจ.โต้งที่กำลังสร้างบ้านใหม่” น่าจะเป็นคำพูด คำขู่ในคลิปเสียงการต่อสู้ลงชิงตำแหน่งนายก อบจ.ในสนามเลือกตั้งท้องถิ่น และเงิน 20 ล้านบาท  คลิปเสียงการโต้เถียงเกี่ยวกับการเมืองท้องถิ่น  

มีเสียง “สจ.โต้ง” พูดขึ้นว่า “เอาอย่างงี้โก โกไม่มีปัญหา ผมอ่ะนะก้าวมาแล้ว โกจะส่งใครแข่งโกส่งเลย” 

ก่อนที่ “โกทร” บอกว่า “กูไม่มีเงินกูต้องหาเงินก้อนมา” 

ก่อนที่ “สจ.โต้ง” จะบอกว่า “ก็แล้วแต่ ส่งไปเลย ส่งไปเลย แล้วจากวินาทีนี้นะจะหาว่าผมไม่ดีไม่ได้”  

จากนั้น “โกทร” บอกว่า “บ้า มึงมันบ้า... งั้นก็ฆ่ากูเลย... มึงจบแล้วไอ้โต้ง” จากนั้นมีเสียโต้เถียงกันไปมาของทั้ง 2 ฝ่าย

และนำมาซึ่งบทจบ “สจ.โต้ง” บอกว่า “20 ล้าน ถ้าโกจะคิดวันนี้ ว่าจะแข่งกับผม แล้วผมก็จะก้าวออกจากบ้านโกไป แล้วจะไม่มีโทรศัพท์กลับมาหาแล้ว แล้วแต่โกเลย ถ้าโกตัดสินใจวันนี้ โกยังมีผมอยู่” 

ก่อนที่ “โกทร” จะบอกว่า “กูไม่มีตัวแข่งหรอก แต่ถ้ากูจะแข่ง กูแข่งจนได้แหละ จะหาเงินยืมมาจนได้” 

จากนั้น “สจ.โต้ง” บอกว่า “ก็แข่งเลย ก็ไปยืมมาเลย ผมแพ้โก ผมก็ไม่เสียใจ แต่มันก็ต้องมีการตายเกิดขึ้น เชื่อเถอะไอ้คนที่โกส่ง ก็ต้องตาย เชื่อผมสิ เอาสิ”!!!

“โกทร” โต้กลับมาว่า “ไม่กลัวตายหรอก” 

ก่อนที่ “สจ.โต้ง” จะส่งเสียงตอบโต้อย่างดุดันว่า  “ก็ลองได้ แต่โกตัดสินใจบอกผมตรงนี้ว่า ถ้าโกจะส่งคนลงหรือไม่ช่วยผม ผมจะไปเดี๋ยวนี้”  

ก่อนที่ “โกทร” จะพูดออกมาว่า “มึงฆ่ากู ฆ่าเขาก็ไม่มีความหมายหรอก มึงฆ่ากู”!!!

เมื่อ “บ้านใหม่” ท้าทายอำนาจ “บ้านใหญ่” ปฏิบัติการหักกันเพื่อชำระสิ่งที่ทิ่มตำใจจึงเกิดขึ้น!! 

นี่คือสิ่งที่นำมาสู่ความบาดหมางขั้นแตกหักระหว่าง “สจ.โต้ง บ้านใหม่-โกทร บ้านใหญ่” จนมาสู่การยิงปลิดชีพ สจ.โต้ง บ้านใหม่ที่กล้าท้าทายบ้านใหญ่ แห่งปราจีนบุรี ที่ทำให้คนไทยเห็นภาพของผู้มีอิทธิพลในเมืองไทย!!!

คอลัมน์ข่าวห้ามเขียน โดย...พรานบุญ