เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือ "รมว.คลัง" คนใหม่ แทนนายปรีดี ดาวฉาย ที่ลาออกหลังเข้ารับตำแหน่งได้เพียง 27 วัน คือ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สมัยที่ 1
หากย้อนกลับไปดูผลงานของนายอาคม ในยุครัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์. จันทร์โอชา 1 พบว่าตั้งแต่ปี 2558 ที่นายอาคม ได้ก้าวขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะพบว่าเขาได้สร้างผลงานไว้หลายด้าน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หนุน "อาคม" ว่าที่รมว.คลังคนใหม่ ดันเมกะโปรเจคต์
“อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” จ่อผงาดรัฐมนตรีคลังคนใหม่
"ประสงค์ พูนธเนศ " ปัดเตรียมรับตำแหน่งรมว.คลัง
ผลงานแรกที่สำคัญคือการแก้ไขปัญหาด้านการบินพลเรือน ปลดธงแดง องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(International Civil Aviation Organization: ICAO) โดยได้ดำเนินการปฏิรูปกฎหมายด้านการบินที่ล้าสมัยด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2597 ในประเด็นที่เป็นข้อบกพร่อง
นอกจากนี้ยังได้ผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่หลายโครงการ อาทิ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า รวมทั้งยังผลักดันโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย เช่น ส่วนต่อสายสีน้ำเงินช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 ,สายสีแดงช่วงหัวลำโพง-มหาชัย และสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงคูคต-ลำลูกกา
ขณะเดียวกันได้เดินหน้าการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯและปริมณฑลตามแผนแม่บทการขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล (M-MAP) ที่ทำไว้ตั้งแต่ปี 2553 โดยริเริ่มดำเนินการ 10 เส้นทางหลักตามแผนในรัฐบาลคณะรักษาาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าหมายเปิดครบทั้ง 10 เส้นทางในปี 2568
นอกจากนี้ยังได้ผลักดันการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ 8 เส้นทาง และมาตราการป้องกันฝุ่นพิษ PM2.5 การจัดทำระบบตั๋วร่วม และแผนฟื้นฟูองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ฯลฯ
เมื่อปี 2562 สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)ได้ประเมินผลงานด้านคมนาคมของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พบว่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมเป็นเครื่องมือสำคัญของรัฐบาลประยุทธ์ในการพัฒนาระบบคมนาคม โดยรัฐบาลพยายามขับเคลื่อนโครงการตามแผนยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ (พ.ศ. 2558–2565) วงเงิน 3 ล้านล้านบาท โดยนำโครงการใน พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มาปรับปรุงเพิ่มเติม
ความสำเร็จสำคัญของรัฐบาลประยุทธ์คือ สามารถอนุมัติโครงการลงทุนขนาดใหญ่ต่างๆ ได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนระบบราง ซึ่งเป็นผลมาจากเสถียรภาพของรัฐบาล โดยโครงการที่เกิดขึ้นรวมถึง
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีผลงานอื่นๆ ในด้านการขนส่งดังต่อไปนี้
นายอาคม เคยกล่าวไว้ว่า วันแรกที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมก็รู้สึกตกใจและภูมิใจที่ได้รับความไว้วางใจเพื่อขับเคลื่อนโครงการของประเทศ ซึ่งตลอด 1,775 วันในการทำงานนั้น มีหลายโครงการที่มีการขับเคลื่อนไปมาก บางโครงการได้มีการเริ่มต้น ถึงแม้จะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ 100% แต่ถือเป็นก้าวแรกของความสำเร็จ
โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ที่มีความคืบหน้าหลายโครงการ ส่วนใหญ่จะสามารถเปิดให้บริการได้อย่างสมบูรณ์ในปี 2563-2564