ตำรวจพบผิด 3 ข้อหาม็อบทำลายรถคุมขัง

วันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ สน.ประชาชื่น พ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์ วงษ์หอมหวล ผกก.สน.ประชาชื่น กล่าวถึงกรณีผู้ชุมนุมกลุ่มคณะราษฎรทุบทำลายรถคุมขัง ว่า กระจกของรถถูกทุบทำลายรอบคัน ซึ่งทางกองพิสูจน์หลักฐานได้มาเก็บหลักฐานเพื่อนำไปประกอบสำนวนแล้ว 

การกระทำดังกล่าวเบื้องต้นมีความผิดชัดเจน คือ ต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตาม ป.วิอาญา มาตรา 138,140 ข้อหาทำให้เสียทรัพย์ มาตรา 358 และ ข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน มาตรา 295,296 ส่วนจะมีความผิดในเรื่องการชิงตัวหรือไม่นั้น ต้องไปดูพฤติการณ์ว่าเข้าข่ายหรือไม่อย่างไร

ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่าตำรวจชนรถ จยย.ของประชาชน พ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์ ชี้แจงพร้อมนำคลิปวีดีโอเหตุการณ์มาอธิบาย ว่า รถคันดังกล่าวถูกนำมากีดขวางรถตำรวจไม่ให้สัญจรไปต่อได้ หลังจากนั้นมีรถจยย.อีกหนึ่งคันมาจอดด้านข้าง ทำให้ตำรวจต้องเบี่ยงรถออกทางด้านขวา ทำให้ จยย.ที่จอดขวางไว้ล้มลง ซึ่งผู้ที่ขับรถตำรวจไม่ทราบว่ามีรถขวางอยู่และถูกลากติดมาด้วย ส่วนรายละเอียดอื่นๆ อยู่ในสำนวนยังไม่สามารถเปิดเผยได้

สำหรับกรณี นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษาธิการ โพสต์ภาดนายภาณุพงค์ จาดนอก หรือไมค์ นอนหมดสติบนโรงพักประชาชื่น มีการบรรยายข้อความ “ใช้หมายจับที่หมดสภาพไปแล้วไปจับกุมคนโดยพละการ ระหว่างเคลื่อนย้ายซ้อมเขาจนสลบ มันป่าเถื่อนมาก ใครสั่งใครบงการย่อมเป็นที่เกลียดชัง ระบบยุติธรรมก็เสื่อมเสีย น่าอับอายไปทั่วโลก”

พ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์  แถลงชี้แจงข้อเท็จจริงเหตุการณ์ ว่า นายภาณุพงศ์ นอนหมดสติอยู่ มีนายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ มาช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น และตำรวจให้สิทธิในการรับการรักษาอย่างทันท่วงที ได้ประสานรถกู้ชีพส่งไป รพ.เกษมราษฎร์ หลังจากนั้นทางผู้ป่วยต้องการไปรักษาตัวต่อที่ รพ.พระราม 9 และตำรวจได้ทำหนังสือขอผลการตรวจร่างกายเบื้องต้นไว้เป็นพยานหลักฐานต่างๆ 

“สิ่งที่ทำให้นายภาณุพงศ์ อยู่ในลักษณะแบบนี้ อาจเพราะมวลชนได้ล้อมรถคุมขังไว้ อากาศหายใจเลยน้อย ทำให้เกิดอาการเหน็ดเหนื่อย ส่วนบาดแผลที่มีการกล่าวอ้างว่าถูกทำร้ายร่างกาย มันไม่มี และยืนยันว่าไม่มีการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด”