‘เนชั่น’สถาบันข่าว องค์กรไม่ล่มสลาย ‘ฉาย’สยบข่าวลือ

06 พ.ย. 2563 | 07:45 น.

“ฉาย” เปิดใจปมบุคลากรบางส่วนลาออกจากเนชั่นทีวีช่อง 22 ลั่นเดินหน้านำเนชั่นสู่ปีที่ 50 ยํ้าเป็นสถาบันข่าว องค์กรไม่ล่มสลายกับการเปลี่ยนแปลง ปัดทุนการเมืองฮุบหุ้น ไม่แคร์ข่าวลือต่างๆ 

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,625 หน้า 12 วันที่ 8 - 11 พฤศจิกายน 2563

 

เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2563 นายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) แถลงที่โรงแรมเวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท ถึงกรณีมีบุคลากร เนชั่นทีวี ช่อง 22 บางส่วนลาออกว่า ทุกองค์กรมีคนเข้ามาออกไปก็เป็นเรื่องปกติของธุรกิจ เนชั่นปีนี้อายุ 49 ปี จะเข้าปีที่ 50 ในปีหน้า 

 

แต่ในระหว่างทางองค์กรได้เติบโต จนเป็นสถาบันและต้นไม้ใหญ่ ที่ผ่านมาเนชั่น ขายความน่าเชื่อถือ ขายคอนเทนท์ ไม่ได้ขายดารา และขายความรับผิดชอบของสังคม ซึ่งเนชั่นยึดมั่นในจริยธรรมจรรยาบรรณ เพื่อนำประโยชน์ให้ส่วนรวม ในเครือเนชั่นมีอยู่หลายแบรนด์ แต่ในสภาวะแบบนี้ได้กำชับความระมัดระวังในสถานการณ์ที่เปราะบาง แต่เนชั่นยังยืนหยัดในอุดมการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง

 

“องค์กรเนชั่น ปีหน้าเข้าสู่ปีที่ 50 เราจะยืนหยัดในการทำหน้าที่องค์กรสื่อสารมวลชนที่ดี มีอุดมการณ์ไม่แปรเปลี่ยนใน การปกป้องสถาบันหลักของชาติสืบไป” นายฉาย ระบุ

 

ส่วนนางสาวอัญชะลี ไพรีรัก นายสันติสุข มะโรงศรี ผู้ดำเนินรายการข่าวเนชั่น ทีวี และ นายสถาพร เกื้อสกุล พิธีกรราย การเนชั่นเจาะข่าวเย็น ได้ยื่นใบลาออกแล้วมีผล 30 พ.ย.นี้ ประธานเครือเนชั่น กล่าวว่า ไม่มีความขัดแย้งอะไร ยังรักกันเหมือนเดิม แต่ใครอยู่ใครไปเป็นเรื่องปกติทางธุรกิจ 

 

ต่อกรณีข่าวลือว่า นายกนก รัตน์วงศ์สกุล และ นายธีระ ธัญไพบูลย์ พิธีกร และผู้ประกาศจะลาออกนั้น ก็ไม่ทราบ เพราะข่าวลือจากผู้ไม่ประสงค์ดีมีเยอะ แต่ทุกคนยังทำงานตามปกติ แต่เข้าใจทุกคนมีวิถีทางการงาน ทั้งนี้ นางสาวอัญชะลี ถือเป็นผู้จัดอาวุโสในวงการ ก่อนหน้านี้นางสาวอัญชะลี เคยทำงานที่เนชั่นแล้วออกไป แล้ว กลับมาก็เป็นเรื่องปกติ แต่องค์กรไม่ได้ล่มสลายไปกับการเปลี่ยนแปลง

 

‘เนชั่น’สถาบันข่าว  องค์กรไม่ล่มสลาย ‘ฉาย’สยบข่าวลือ

 

 

“เราเป็นสถาบันข่าว เราสร้างคนขึ้นมา เนชั่นเหมือนสโมสรฟุตบอล มีนักเตะเข้ามาและย้ายออกไป แต่เราก็มีอคาเดมี่ของเราที่แข็งแรง เราต้องผลิตสิ่งที่ดีออกสังคม อุดมการณ์ไม่เคยเปลี่ยน จะสานต่อสิ่งที่ผู้ ก่อตั้งเดิมสร้างไว้ เราไม่ได้เปลี่ยนอะไร ยังทำเหมือนเดิมส่วนเรตติ้งมีความสำคัญ แต่ไม่สำคัญที่สุด แต่ข้อมูลข่าวสารที่ออกสู่ประชาชนสำคัญที่สุด ส่วนพี่ปองและพี่สันติสุข ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบ และขออวยชัยให้ประสบความสำเร็จ เรามีองค์กรข่าว มีพื้นที่ผู้จัดรายการ และนักข่าวทุกคน”

 

 

 

ประธานเครือเนชั่น กล่าวด้วยว่า ส่วนการทำข่าวในช่วงความขัดแย้ง จะต้องตรวจสอบข้อมูล ปฏิบัติตามจริยธรรมของวิชาชีพ ไม่นำไปสู่ความขัดแย้งความเกลียดชัง เรารับฟังผู้ชุมนุม ขอบคุณที่ชุมนุมอย่างสงบ เราไม่ได้มองเป็นฝ่ายตรงข้าม แต่ไม่สนับสนุนจาบจ้วงสถาบัน ยืนยันว่าเรายึดมั่นใจการปกป้องสถาบันหลักของประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตระกูลรับใช้ประเทศชาติมานานกว่า 300 ปี เลือดทุกหยดในตัวก็เพื่อสามเสาหลักของประเทศ ดังนั้น การปล่อยข่าวลือเป็นเจตนาร้าย เป็นการกลั่นแกล้งทางธุรกิจ

 

“ในสัปดาห์หน้าจะประชุมกรรมการในวันพฤหัสบดี จะมีการสรุปในสัปดาห์หน้า เราจะเป็นองค์กรข่าว มีผลประกอบการดีอันดับต้นๆ ของประเทศ เรามีการประเมินตัวเองตลอดเวลา เพราะเรามองความรับผิดชอบทางสังคม เราต้องดูว่าสิ่งที่นำเสนอเหมาะสมและเป็นคุณ หรือโทษ กับสถาน การณ์วันนี้เราจะเดินเข้าสู่ปีที่ 50 อย่างแข็งแรง เราไม่ทอดทิ้งพนักงงาน จากข่าวลือต่างๆ ได้ยินมาเยอะ แต่ไม่จำเป็นต้องแคร์ทุกอย่างที่เป็นข่าวลือ” นายฉาย กล่าว

 

 

 

นายฉายยํ้าว่า เนชั่นกำลังทรานส์ฟอร์ม เข้าสู่ออนไลน์ตามโมเดลธุรกิจตามที่วางไว้ จะต้องนำคอนเทนท์ออกสู่แพลตฟอร์มต่างๆ ส่วนแบรนด์ต่างๆ ของเนชั่นยังเหมือนเดิม แต่เรตติ้งต้องมากับความรับผิดชอบของสังคม ถ้าเรตติ้งสูง แต่หากไม่มีความรับผิดชอบก็ไม่มีประโยชน์  

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวลือเรื่องคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ หรือ คนแดนไกล ดูไบเข้ามาถือหุ้น นายฉาย ตอบว่า โครงสร้างผู้ถือหุ้นไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่เป็นเรื่องข่าวลือจากบุคคลที่มีชื่อเสียงในสภา ควรจะระมัดระมังคำพูดและควรรับผิดชอบคำพูดมาก กว่านี้ 

 

“ข่าวลือ ข่าวปลอม ข่าวเท็จ ที่ใส่ร้ายป้ายสีเรา ว่าเราเปลี่ยนอุดมการณ์ ว่าเราถูกทุนการเมืองครอบงำ ล้วนเป็นเพียงการ ดิสเครดิสหวังทำลายองค์กรเราจากผู้ไม่หวังดี” ประธานเครือเนชั่น กล่าว