วันนี้ (30 พ.ย.63) มีรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)มีมติสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวน กรณีการเคลื่อนไหวของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยะบุตร แสงกนกกุล และ ช่อ-พรรณิการ์ วานิช ในนามคณะก้าวหน้าที่ส่งและช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครลงรับเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) ว่าเข้าลักษณะเป็นพรรคการเมืองซึ่งมีความผิดตามมาตรา 111 พ.ร.ป.พรรคการเมือง ที่กำหนดว่าผู้ใดสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปดำเนินกิจกรรมทางการเมืองที่มีลักษณะคล้ายกับพรรคการเมือง อาจต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งอาจต้องถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี
หลังพิจารณาข้อมูลหลักฐาน ที่ด้านกิจการพรรคการเมืองของสำนักงานกกต. รวบรวมเสนอแล้วเห็นว่า มีน้ำหนักพอสมควร ที่กกต.จะดำเนินการต่อไปตามระเบียบกกต.ว่าด้วยการสอบสวนและไต่สวนได้
ทั้งนี้หากการสืบสวน กกต.พบว่าการดำเนินการดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นความผิดตามมาตรา 111 พ.ร.ป.พรรคการเมือง ซึ่งไม่เพียงต้องมีการดำเนินคดีอาญาบุคคลทั้ง 3 แต่ยังอาจมีผลไปถึงตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกและสมาชิกอบจ. ที่ถ้าผลการสืบสวนพาดพิงไปว่านำไปสู่การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรมก็สามารถนำไปสู่การดำเนินการตามกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น กับผู้สมัครนายกและสมาชิกอบจ.ได้ เช่น สั่งระงับสิทธิสมัครของผู้สมัครไว้เป็นการชั่วคราว หรือ "ใบส้ม" หรือ สั่งเลือกตั้งใหม่ ที่เรียกว่า "ใบเหลือง"ได้ด้วย