เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2563 นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการและส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย โพสต์รูปภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Suphachai Jaismut โดยภาพที่โพสต์เป็นภาพแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยเหงื่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
พร้อมระบุคำบรรยายภาพว่า #อนุทินสู้ๆ เหงื่อซก หลังขดหลังแข็ง คือสไตล์การทำงานของรองฯหนู ซึ่งเติบโตขึ้นมาได้ จากการทำงานอย่างเต็มที่
นี่ไม่ใช่ผู้บริหาร ที่นั่งในห้องแอร์ กลับกัน รองฯหนู คือ คนที่คิดจริง วางแผนจริง ทำงานจริง ลุยงานจริง สัมผัสกับหน้างานจริงๆร่วมสุข ร่วมทุกข์กับทีม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โลกโซเชียลแห่ไล่ "อนุทิน" พ้นสธ. แฮชแท็ก #ถอดถอนอนุทิน อื้ออึงทวิตเตอร์
นั่งไม่ติด “อนุทิน” นัดถกด่วนรับมือโควิดระบาดสมุทรสาคร
ในการทำงานเป็น รมว.สธ.รองฯอนุทิน มิได้ทิ้งสไตล์การทำงานนี้เลย ยังคงขลุกกับงานวันละ 12 ชั่วโมงอย่างต่ำ และบางวันก็หามรุ่ง หาค่ำ ห้องประชุม สธ. บางครั้งยังเปิดไฟ แม้วันจะข้ามผ่านไป เพราะท่านรองฯ ยังประชุมอยู่
การระบาดของโควิด-19 ยิ่งทำให้ท่านรองฯ ต้องลุยงานหนักขึ้นเป็น 2-3 เท่า เพราะกฏการควบคุมโรคคือ ต้องเจอเร็ว คุมเร็ว รักษาเร็ว ท่านรองฯ ต้องตื่นตัวอยู่ตลอด เพื่อจัดการทุกอย่างให้จบโดยเร็ว ที่ผ่านมา ประเทศไทย ก็ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ควบคุมโรคได้มีประสิทธิภาพที่สุดในโลกทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยดี
แต่แล้วเราก็พบการระบาดในกลุ่มแรงงานต่างด้าว การระบาดที่เกิดขึ้นนั้น ส่งสัญญาณตั้งแต่การจับกุมพวกลอบเข้าเมืองอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เป็นคนต่างชาติ และคนไทยเอง สะท้อนว่ามีความพยายามฝืนกฎหมาย เพื่อเข้าไทยอยู่ตลอดเวลา ความพยายามดังกล่าวมีทั้งล้มเหลว และประสบความสำเร็จ !!!!!
ความสำเร็จของคนกลุ่มนี้ คือภาระหนักของกระทรวงสาธารณสุข เพราะพวกเขามีความเสี่ยงมากๆ ที่นำเชื้อติดมาด้วย ที่สุดแล้ว ฝันร้าย ก็กลายเป็นจริง ณ จุดนี้ รองฯหนู เป็นคนหนึ่งที่เครียดที่สุด แต่สิ่งที่จะต้องดำเนินต่อไปคือรองฯหนู ต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อรบรากับเชื้อโรค
แน่นอนวินาทีแห่งการต่อสู้อันดุเดือด ในการตัดสินใจซึ่งเต็มไปด้วยความลำบาก เพราะไม่ว่าจะเลือกทางไหน ย่อมต้องมีคนได้รับผลกระทบ สิ่งที่รองฯหนู ต้องการที่สุดคือ "กำลังใจ" #อนุทินสู้ๆ