ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ “ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี @TrairongSuwankiri” ระบุชื่อเรื่องว่า #สงครามประชาชนไม่เคยเกิดขึ้นโดยการจ้างวาน โดยเนื้อหาระบุว่า
(1) คนรุ่นใหม่ที่เดินขบวนเฉพาะกลุ่มที่มีเป้าหมายแอบแฝงเพื่อล้มเจ้า อยากสถาปนาระบบประธานาธิบดีขึ้นในประเทศไทยตามความต้องการของผู้ที่จ่ายเงินสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง (ทั้งที่เป็นคนไทยและฝรั่ง) ควรจะสำเหนียกไว้ด้วยว่า การจะพลิกฟ้าพลิกดินเช่นนั้นได้ ต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนส่วนใหญ่ที่เรียกกันว่า การปฏิวัติโดยประชาชน อย่างที่เคยเกิดขึ้นที่ประเทศรัสเซียในสมัยเลนิน (Lenin)
เคยเกิดขึ้นในประเทศจีนในสมัยซุนยัดเซ็นและอีกครั้งในสมัยเมาเซตุงหรือที่เคยเกิดขึ้นในคิวบาสมัยฟีเดลคาสโตรและที่เคยเกิดขึ้นในฝรั่งเศสสมัยการปฏิวัติใหญ่ใน ค.ศ. 1789
แต่ลองคิดเปรียบเทียบดูเถิดว่า มันมีสถาบันใดในประเทศไทยที่มีพฤติกรรมเลวร้ายมากจนถึงกับทำให้ประชาชนทั้งประเทศลุกฮือขึ้นก่อสงครามประชาชนอย่างที่เคยเกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ ดังกล่าวข้างต้นหรือไม่
แน่นอนความบกพร่องไม่สวยงามในทุกสถาบันของชาติย่อมมี เพราะเป็นเรื่องของคนไม่ว่าจะเป็นสถาบันในทางศาสนาหรือสถาบันที่ไม่เกี่ยวกับศาสนา เราทุกคนทั้งคนในและนอกสถาบันต่างๆ จึงต้องมีหน้าที่ช่วยกันปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้ทุกสถาบันคงสามารถอยู่เป็นหลักอย่างมั่นคงเพื่อประโยชน์ในการรักษาความเป็นเอกภาพ ความเป็นชาติ และความเป็นเอกราชมีอธิปไตยอย่างสมบูรณ์ของตนเองต่อไปให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
(2) เหตุแห่งการเกิดปฏิวัติประชาชนดังกล่าวในประเทศอื่นๆ มันยังไม่มีในประเทศไทย ใช่หรือไม่? แล้วพวกเราเดินขบวน ดิ้นรน ก่อกวน ต่อสู้ไปเพื่ออะไร โดยเฉพาะในยุคที่ประเทศมีภัยจากโรคภัยไข้เจ็บและเศรษฐกิจของโลกตกต่ำอย่างสาหัสในขณะนี้ ตัวรัฐบาลเองก็มาโดยชอบของรัฐธรรมนูญ (มันจะผิดจะถูกมันก็เป็นกฎหมายที่ทุกคนต้องเคารพตามหลัก Legal Positivism)
และตัวรัฐบาลเองก็ยังไม่มีอะไรแสดงให้เห็นว่ามีลักษณะเป็นเผด็จการรัฐสภา (ตามทฤษฎีรูปแบบของ Totalitarianism) กล่าวคือ ไม่เคยเสนอกฎหมายหรือนโยบายอะไรที่เพื่อให้เกิดการโกงกินคอรัปชั่นกันระหว่างผู้มีอำนาจและเครือญาติอย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ยังเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยที่ยังให้เกียรติใช้ความอดทนสูงในการรับฟังเสียงติติงของฝ่ายค้านที่บางครั้งก็หยาบคายก้าวร้าวที่เหมาะจะใช้บนเวทีนอกรัฐสภาเท่านั้น
และก็ยังเป็นรัฐบาลที่ยังไม่แสดงอะไรให้เห็นถึงการใช้ความรุนแรงเกินเหตุกับ mob ของประชาชนที่ใช้สิทธิชุมนุมนอกสภา มีแต่ใช้หลักนิติธรรมกับผู้ทำผิดกฎหมายในทุกกรณีเท่านั้น
นอกเสียจากว่า ถ้ามันเป็นเพียงอาชีพเพราะเป็นหนทางได้เงินเพื่อเลี้ยงชีพไปวันๆ ดีกว่าตกงานก็ทำไปเถิด ผมไม่ว่าอะไรหรอก เสี่ยงคุกเสี่ยงตารางเสี่ยงอนาคตเอาเองก็แล้วกัน เพราะเงินทุนสามานย์ทั้งจากคนไทยสามานย์และจากฝรั่งสามานย์มันยังมีอีกมากมายมหาศาล พวกเขาคงจ้างให้เกิดการก่อกวนความสงบของประเทศไทยได้อีกหลายสิบปี คนไทยส่วนใหญ่จึงต้องเข้าใจและเตรียมใจไว้อดทนกับมัน เพราะเราเลือกเกิดใหม่ไม่ได้อีกแล้วครับ