สหภาพฯ เตรียมเจรจาข้อยุติปมการบินไทยเปลี่ยนสภาพการจ้างงานวันนี้

10 มี.ค. 2564 | 02:23 น.
อัปเดตล่าสุด :10 มี.ค. 2564 | 09:33 น.

ปรึกษาสหภาพแรงงานการบินไทยร่วมใจสัมพันธ์ เผยเตรียมเจรจาหาข้อยุติในความขัดแย้งเรื่องการเปลี่ยนสภาพการจ้างงานใหม่ ตามโครงการ Relaunch ของบริษัทการบินไทยวันนี้

นายนเรศ ผึ้งแย้ม ที่ปรึกษาสหภาพแรงงานการบินไทยร่วมใจสัมพันธ์ (สร.กบท.สพ.) เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่า วันนี้ (10 มีนาคม 64 )   เวลา 13.30 ที่กระทรวงแรงงาน นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และสหภาพแรงงานการบินไทยร่วมใจสัมพันธ์ พร้อมตัวแทนพนักงานส่วนงานต่างๆของบริษัท จะมีการเจรจา หาข้อยุติในข้อขัดแย้ง เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างใหม่ ตามโครงการ Relaunch ของบริษัทการบินไทย ปัญหาเรื่องข้อขัดแย้งในการแก้ไขข้อบังคับกองทุน และปัญหาอื่นๆ โดยคาดว่าอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจะเป็นคนกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ย และมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเข้าร่วมรับฟังการเจรจา แก้ปัญหาการบินไทยด้วย นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าอาจมีพนักงานการบินไทยเดินทางไปกระทรวงแรงงานวันนี้ประมาณ 200 คน 

สำหรับประเด็นข้อร้องเรียนตามหนังสือร้องเรียนที่สหภาพฯ ยื่นต่อกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2564 ที่ สร.กบท.สพ.003/2564 เรื่องขอยื่นคัดค้านข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ฉบับประกาศ ณ วันที่ 4 มิถุนายน 2563  และยื่นขอความคุ้มครองสิทธิตามกฎหมายกรณีบริษัทกำลังดำเนินการเปลี่ยนสภาพการจ้างงาน โดยระบุว่าบริษัท การบินไทย ไม่ได้ปฎิบัติตามขั้นตอนในพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 13 ถึงมาตรา  20 เนื่องจากเป็นข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่เปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างงานเดิม และเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับที่ไม่เป็นคุณกับพนักงานและบริษัทให้พนักงานแสดงความจำนงเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกตามโครงสร้างใหม่ โดยพนักงานจะต้องให้ความยินยอมเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างงานและเมื่อพนักงานได้รับการคัดเลือก พนักงานจะผูกพันตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานและโครงสร้างองค์กรใหม่ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป ส่วนพนักงานที่ไม่แสดงความจำนงเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกตามโครงสร้างองค์กรใหม่บริษัทจะโอนย้ายไปยังส่วนกลางและอาจเลิกจ้าง ซึ่งในการดำเนินการดังกล่าวของบริษัทเป็นไปในลักษณะเชิงบังคับขู่เข็นพนักงานให้ต้องสมัครใจยินยอมเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างงาน

สหภาพฯ เตรียมเจรจาข้อยุติปมการบินไทยเปลี่ยนสภาพการจ้างงานวันนี้
 

นายนเรศ กล่าวว่า เมื่อวานที่ผ่านมา (9 มีนาคม 2564 )เจ้าหน้าที่ประนอมข้อพิพาทได้แจ้งให้ทราบว่ากระทรวงแรงงานได้เชิญตัวแทนของบริษัทการบินไทยเพื่อชี้แจงในปัญหานี้ เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2564  ทางบริษัทอ้างถึงความเร่งรีบและจำเป็นในการเขียนข้อบังคับใหม่ หลังจากที่พระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ถูกยุบ จากการลดสัดส่วนหุ้นของกระทรวงคลัง ทำให้บริษัทอาจเขียนข้อบังคับ ฉบับ วันที่ 4 มิถุนายน 2564 ผิดพลาดไปบ้าง โดยบริษัทยินดีแก้ไข ตามที่สหภาพ ฯ ทักท้วง และบริษัทจะให้พนักงานกลับไปที่ข้อคู่มือพนักงานของบริษัท ฉบับปี 2537

“ประเด็นที่เราขอให้บริษัท จ่ายเงินค่าตกใจตามระเบียบเดิมของบริษัทให้กับพนักงานอู่ตะเภาก่อนที่ พนักงานจะต้องรายงานตัว ที่ DMKหรือ BKK นั้น ทางบริษัทชี้แจงกับทางกระทรวงว่า บริษัทยินดีจ่ายค่าตกใจให้กับพนักงานอู่ตะเภา แต่เนื่องจากบริษัทอยู่ในช่วงฟื้นฟูกิจการ ทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณในส่วนนี้ เกิดความล่าช้า แต่บริษัทยืนยันว่าจะจ่ายเงินค่าตกใจนี้ ให้พนักงานอู่ตะเภาตามสิทธิ  ส่วนประเด็นที่เราขอให้ประธานกองทุนเปิดประชุมใหญ่ให้นั้น เจ้าหน้าที่ประนอมพิพาทแจ้งว่าที่ปรึกษา baker แจ้งกับทางกระทรวงว่าบริษัทไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากการบินไทย อยู่ในช่วงฟื้นฟูกิจการ จึงไม่สามารถนำเงินกองทุนส่วนของนายจ้างจ่ายคืนสมาชิกได้เพราะเงินส่วนนี้บริษัทแจ้งยอดเป็นทรัพย์สินไว้กับพิทักษ์ทรัพย์ ประเด็นนี้ เราโต้แย้งตามข้อกล่าวอ้างของ baker ว่าเงินสมทบกองทุนสำรอง คนถือเงินจริง คือ บลจ ไม่เกี่ยวอะไรกับบริษัทเพราะตาม พรบ กองทุนมาตรา 7 กองทุนสำรองเป็นนิติบุคคล แยกจากบริษัท และมาตรา 15  บังคับให้กองทุน จัดการบัญชีทรัพย์สินเงินสมทบกองทุนแยกจากบริษัท ประเด็นนี้ ท่าน รมต สั่งการ ให้ กระทรวงจัดเตรียมนักกฎหมายของกระทรวงมาช่วย ตีความข้อกฎหมาย ที่เป็นข้อโต้แย้งระหว่างกัน เพื่อหาข้อยุติ ในการแก้ปัญหาเรื่องกองทุน ซึ่งเป็นหนึ่งในการเจรจา ระหว่างทีมงานเราและบริษัทในบ่ายวันนี้ด้วยครับ ส่วนเรื่องสมัครงานใหม่ เซ็นต์สัญญาจ้างใหม่ และโครงสร้างเงินเดือนใหม่ ถ้าไม่เป็นไปตาม พรบ.แรงงานสัมพันธ์ 2518 มาตรา 13 ถึงมาตรา 19 และมาตรา 20 การเจรจาในวันนี้ผมจะหยุดทั้งหมด” นายนเรศกล่าว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :