นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ว่า หลังจากที่รัฐธรรมนูญฉบับร่างแก้ไขเพิ่งตกไป ก็ได้มีการคุยกันในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไม่เป็นทางการว่าเมื่อยังมีนโยบายในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ควรจะหารือถึงการแก้ไขรายมาตราต่อไป
“ผมเข้าใจว่าในแต่ละพรรคได้มีการศึกษาเบื้องต้นกันแล้ว แต่ยังต้องฟังจากภาคีเครือข่ายอื่นๆ ด้วยว่าจะมีการหาทางออกอย่างไร สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ยังยึดหลักการสำคัญในการเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ เป็นประเด็นหลัก เพื่อให้เป็นฉบับที่ประชาชนมีส่วนร่วม และไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง เราจึงเห็นว่าควรเร่งหารือกันในการแสวงหาความเห็นพ้อกันในการแก้รายมาตรา”
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า ควรแก้ไขมาตรา 256 เพื่อสะเดาะกลอนให้แก้ไขรัฐธรรมนูญได้ง่ายก่อน โดยตัดหมวด 15/1 ออกไป เพื่อจะไม่ได้มีปัญหาเหมือนที่ผ่านมา และจะทำให้การแก้ไขในส่วนอื่นๆ ตามมา
รวมทั้งต้องแก้ไขมาตรา 272 ที่ให้อำนาจ ส.ว.ร่วมเลือกนายกฯ ได้ด้วย ซึ่งเมื่อเสนอแก้เป็นรายมาตราแล้ว ถ้าใครเห็นด้วยกับมาตราไหน ก็สามารถแก้ได้ แต่ใครไม่เห็นด้วยกับมาตราไหน ก็ต้องว่ากันไป แต่ควรรับฟังความเห็นก่อน มิฉะนั้นจะเกิดความขัดแย้ง เพราะยังมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอยู่ และในช่วงบ่ายวันที่ 23 มี.ค.นี้ ตนจะไปร่วมเสวนาของภาคีเครือข่ายรัฐธรรมนูญด้วย
“ควรเริ่มต้นจากวิปรัฐบาลหารือกันก่อน จากนั้นจึงเป็นวิป 3 ฝ่าย คือ รัฐบาล , ฝ่ายค้าน และ ส.ว.มาหารือกัน เพราะวันนี้เราทุกคนตระหนักว่าการเมืองยังมีความขัดแย้ง มีการชุมนุมอยู่ คนที่มีความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ก็ควรที่จะมาร่วมกันคิดในเรื่องนี้" นายชินวรณ์ ระบุ
ส่วนที่มีส.ว.บางคนออกมาระบุว่า ส.ส.เป็นผู้ที่ทำให้ร่างรัฐธรรมนูญต้องตกไป นายชินวรณ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากตอบโต้ ส.ว. แต่สังคมก็รับรู้อยู่ว่าใครมีความจริงใจในการเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ถอนฟืนออกจากกองไฟ ใครลงมติอย่างไร ทุกคนก็ทราบกันอยู่แล้ว ก็ต้องรับผิดชอบเอง