นายกฯ เดือดกลางสภาลั่นออกพรก.กู้เงิน 5 แสนล้าน“ผมไม่ได้โง่”ก่อหนี้เกินก.ม.
นายกฯเดือดกลางสภา! ลั่นกลาง ออกพรก.กู้เงิน 5 แสนล้าน “ผมไม่ได้โง่”ก่อหนี้เกินกฎหมายกำหนด โชว์ตัวเลข 2 แสนล้านบาทกระตุ้นเศรษฐกิจ
วันนี้(9 มิ.ย.64) ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 วงเงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาท ว่า ตนได้รับฟังการอภิปรายมาตั้งแต่ช่วงเช้า ยืนยันว่าให้ความสำคัญกับสภาฯ ให้ความสำคัญกับกระบวนการนิติบัญญัติ และให้เกียรติท่านเสมอ แต่ทุกคนต้องรู้ว่าการให้เกียรติมันต้องมีการให้เกียรติซึ่งกันและกัน
“รับฟังมาตั้งแต่ช่วงเช้ารู้สึกสะท้อนใจในเรื่องการใช้คำพูด วาจา การฉีกกระดาษ ฉีกพ.ร.ก.ควรทำหรือไม่ ขอให้ลงไปทำข้างล่างเรื่องอย่างนี้ไม่เคยมี ในช่วงที่ผ่านมาดีขึ้นหรือแย่ลงผมก็ไม่รู้แต่ผมก็เคารพอยู่ดี วันนี้ผมต้องมาชี้แจงเรื่องเดิมๆ ทั้งงบประมาณ พ.ร.ก.กู้เงิน เดี๋ยวก็ต้องไปต่อที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขอให้พี่น้องประชาชนพิจารณาเอาเองว่าอะไรตอบไปแล้ว อะไรไม่ฟัง”
ส่วนการใช้งบประมาณ ยืนยันว่า ในการเบิกจ่ายงบแต่ละครั้งมีขั้นตอนไม่ใช่ว่าเอาเข้าครม.วันนี้แล้ว จะเบิกจ่ายพรุ่งนี้ทันที รัฐบาลไม่ได้ทำอะไรด้วยความไม่รอบคอบ โชคดีการพูดในสภามีเอกสิทธิ์คุ้มครองถ้าพูดนอกคงมีปัญหาเหมือนกัน
“ผมไม่ได้เอาเรื่องโกหกบิดเบือนมาสู้ท่าน ผมถวายสัตย์ปฏิญาณไว้แล้วว่าจะไม่พูดโกหก เป็นคนซื้อสัตย์สุจริต จงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์”
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ในเรื่องของจีดีพี ที่หดตัวลง ต่างประเทศก็เจอสถานการณ์เดียวกัน เราจึงพยายามสร้างฐานรากทางเศรษฐกิจเพื่อให้ประชาชนมีรายได้ในอนาคต ท่านเคยทำบ้างหรือไม่ การอนุมัติเงินกู้ 1 ล้านล้าน ได้มีการพูดไปแล้วหลายครั้ง ว่ามี 3 ส่วน ซึ่งมีการสลับกันได้เพื่อความคล่องตัวในการใช้จ่าย และไม่เคยไปตัดงบกระทรวงสาธารณะสุข แต่มันต้องมีขั้นตอนการเบิกจ่าย ยืนยันว่าสามารถตรวจสอบได้ วันนี้รัฐบาลมีมาตรการในการช่วยเหลือโดยมีกองทุนต่างๆ ที่พร้อมให้ความร่วมมือ
“ผมถามว่าเงินกู้ 5 แสนล้านกู้ทีเดียวหรือไม่ ทยอยกู้ใช่หรือไม่ ดอกเบี้ยมันก็ขึ้นตามนั้น วงเงินก็ขึ้นเป็นเปอร์เซ็น มีกฎหมายทุกตัว ผมคงไม่โง่กู้เกิน60% จนเกินกฎหมายหรอก”
สำหรับในส่วนของงบในการจัดหาวัคซีนโควิด ขอให้มั่นใจว่าไม่ว่าจะตั้งงบไว้ที่ไหน รัฐบาลสามารถหาให้ได้เสมอผมยืนยัน รวมถึงค่าเสี่ยงภัยต่างๆ ยืนยันว่างบที่มีอยู่สามารถปรับเปลี่ยนได้เสมอ
ในส่วนของการดูแล SMEs รมว.คลังได้ชี้แจงถึงขั้นตอนแหล่งเงินกู้ รวมถึงหลักประกันอย่างชัดเจนไปแล้ว แต่ท่านไม่ฟัง วันนี้เรามีเม็ดเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 2 แสนล้าน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ 1.14 ล้านร้านค้ามุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้มีรายได้น้อย เพื่อไม่ให้เกิดการทุจริต ผมถามท่านเคยทำแบบนี้หรือไม่
ส่วนเรื่องวัคชี้แจงไปหมดแล้ว ได้เตรียมการแต่แรกไว้ 65 ล้านโดสรับการระบาดรองแรก และรอบที่ 2 แต่เมื่อเกิดสถานการณ์รอบที่ 3ได้จัดชื้อเพิ่ม100-150 ล้านโดส โดยในส่วนของวัคซีน 2 ยี่ห้อ ยืนยันว่าติดต่อไปทุกยี่ห้อ วันนี้มีข้อมูลยืนยันว่า วัคซีนที่ใช้ในประเทศมีประสิทธิภาพในการรักษา ดังนั้นยี่ห้ออะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับที่องค์การอาหารและยา(อย.) มีการรับรองคุณภาพมาตรฐาน
“ขอย้ำว่าในเรื่องการจัดซื้อ ผมต้องเชื่อการตรวจสอบมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก พร้อมเปิดโอกาสให้ภาคส่วนต่างๆ ช่วยกันจัดหา เห็นได้จากการการปลดล็อกให้อปท.สามารถจัดซื้อเองได้ แต่ก็ต้องมีการตรวจสอบอย่างถูกต้อง หากท่านเห็นว่าท่านจัดหาได้ก็ขอให้จัดหามา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขาจะขายให้หรือไม่ ยืนยันว่าในเรื่องการกระจายวัคซีนเป็นอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดและสสจ.ในการบริหารจัดการ”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “อย่าเอาวัคซีนเป็นเรื่องการเมือง ผมไม่เคยเอาการเมือง มาเป็นเรื่องของการทำงานของผม ผมให้เกียรติท่าน เพราะนี่คือการเมืองในระบอบประชาธิปไตย แต่บางทีการทำการเมืองมากๆ ประเทศก็ไปไม่ได้”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :