ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ วิเคราะห์ตัวเลขจำนวนการติดเชื้อรายใหม่ "โควิด-19" ในแต่ละเดือน ตั้งแต่ต้นปี 2564 ที่ศบค.รายงาน เมื่อนำมาเรียงกันจะให้ความหมายสำคัญ ดังนี้
31 มกราคม ผู้ติดเชื้อรายใหม่ = 829 คน
28 กุมภาพันธ์ = 70 คน
31 มีนาคม = 42 คน
30 เมษายน = 1,583 คน
31 พฤษภาคม = 5,485 คน
และ 30 มิถุนายน = 4,786 คน
สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ช่วง คือ
1. ช่วงมกราคม ผู้ติดเชื้อรายใหม่ = 829 คน จนถึง 31 มีนาคม คือ สถานการณ์สมุทรสงคราม ที่ทำให้ตัวเลขสูง
2. ช่วงเมษายน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ = 1,583 คน คือ ช่วงประชาชนกลับบ้านต่างจังหวัด ในเทศกาลสงกรานต์
และ 3. ช่วงพฤษภาคมถึงมิถุนายน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ = 5,485/4,786 คน
คือ ช่วงเกิดคลัสเตอร์เรือนจำ, ตลาดสด, ชุมชน, แคมป์คนงานก่อสร้าง และแหล่งชุมชนต่าง ๆ
แสดงให้เห็นแบบแผนของปัญหาการแพร่ระบาด 2 รูปแบบ คือ
แบบแผนที่ 1 เป็นการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสในกลุ่มคน ที่อยู่ใกล้ชิดกันและไม่สามารถควบคุมได้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ลดลงเป็นช่วง ๆ เป็นผลจากการระดมมาตรการแก้ไขที่ใส่ลงไปในพื้นที่แพร่ระบาดเป็นสำคัญ
แบบแผนที่ 2 เป็นการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส จากการเคลื่อนที่ของคนติดเชื้อไวรัสและกระจายไปสู่บุคคลอื่น ๆ ในพื้นที่ที่เดินทางไป
จากตัวเลขการติดเชื้อรายใหม่และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง 2 แบบแผนนี้ ชี้ถึงปัญหาการควบคุมการแพร่ กระจายของเชื้อไวรัสตามหลักทางระบาดวิทยา
สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหานี้ น่าจะมีเหตุผลหลายประการประกอบกัน
ประการแรก คือ ความไม่รู้ของผู้รับผิดชอบ รวมถึงการไม่รู้ข้อมูลจริงและการไม่มีความรู้
ประการที่สอง คือ การไม่สามารถบริหารสั่งการให้เกิดการควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ ในระดับปฏิบัติการ
และ ประการที่สาม คือ การไม่เอาใจใส่ของผู้ปฏิบัติหน้าที่ในระดับปฏิบัติที่จะเฝ้าระวังปัญหาการแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด
ศ.กร.กนก กล่าวด้วยว่า ประเด็นปัญหาที่มีการส่งเสียงเตือนออกมาแล้ว คือ การกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโดยเฉพาะสายพันธุ์เดลต้า (อินเดีย) ที่สามารถติดได้ง่าย กระจายตัวรวดเร็ว มีอาการรุนแรง และวัคซีนที่ฉีดคือ Sinovac มีความสามารถในการป้องกันสายพันธุ์นี้ได้ต่ำ
ตัวเลขการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้า ขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากรายงานของกระทรวงสาธารณสุข และ กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พบว่าในกรุงเทพมหานคร(กทม.) ช่วงต้นเดือนจนถึงปลายเดือนมิถุนายน พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้าจาก 5% เป็น 70% ของผู้ติดเชื้อไวรัสทั้งหมด แนวโน้มของจำนวนติดเชื้อเพิ่มสูงถึง 6,087 คน (2 ก.ค.) และจำนวนผู้เสียชีวิตสูงขึ้นเป็น 61 ราย
ตัวเลขจำนวนคนติดเชื้อไวรัสรายใหม่ และจำนวนคนเสียชีวิตรายวันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้ ส่งสัญญาณเตือนให้เตรียมการ 4 เรื่องสำคัญ คือ
1.การเตรียมจำนวนเครื่องช่วยหายใจ
2.การสำรองออกซิเจน
3.การเตรียมยา Favipiravia และ Tocilizumab สำหรับผู้ป่วยอาการหนัก นอกเหนือจากเตียงและโรงพยาบาลสนามที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้แล้ว
ถึงกระนั้นสถานการณ์การแพร่กระจายของไวรัสสายพันธุ์ใหม่อย่างรวดเร็วนี้ เตือนให้เราต้องคิดถึง
4.การวางระบบติดตามอาการของผู้ป่วย ที่ต้องอยู่ที่บ้าน เพราะจำนวนเตียงในโรงพยาบาลทุกประเภทไม่เพียงพอ ระบบการติดตามอาการของผู้ป่วย ที่จำเป็น เช่น เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วด้วยตนเอง, การเตรียมอุปกรณ์และออกซิเจนสำหรับใช้ที่บ้าน จนถึงการรายงานข้อมูลอาการผู้ป่วยที่บ้านกับแพทย์ที่ศูนย์แพทย์ใกล้บ้านตลอด 24 ชั่วโมง
“ความพร้อม 4 เรื่องนี้ มีเวลาเตรียมการประมาณ 1 เดือน เพราะคาดการณ์ว่าเดือนสิงหาคม สถานการณ์การแพร่ระบาดและจำนวนผู้ป่วยจะถึงจุดสูงอย่างไม่เคยพบมาก่อนในประเทศไทย ผมหวังว่าเสียงเตือนด้วยความห่วงใยนี้จะถึงผู้รับผิดชอบในกระทรวงสาธารณสุข และ ศบค. และนำไปสู่การเตรียมการล่วงหน้า เพื่อบริหารจัดการจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยพบมาก่อน ในอนาคตอันใกล้นี้ "ศ.ดร.กนก ระบุ