กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือน พายุดีเปรสชัน ทะเลจีนใต้ตอนล่าง ฉบับที่ 1

22 ธ.ค. 2567 | 12:01 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ธ.ค. 2567 | 12:27 น.

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือน พายุดีเปรสชัน ทะเลจีนใต้ตอนล่าง ฉบับที่ 1 เข้าปกคลุมประเทศไทย วันที่ 25-26 ธ.ค. 67 ทำให้ฝนตกหลายพื้นที่ ขณะที่มรสุมตะวันออกเสียงเหนือ กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย ทะเลอันดามันระวังคลื่นสูง ขอให้ระมัดระวังในการออกเรือ

วันนี้ (วันที่ 22 ธันวาคม 2567) กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือน เรื่อง พายุดีเปรสชัน บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง
ฉบับที่ 1 (343/2567)เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันนี้ (22 ธ.ค. 67) พาเปรสชันบริเวณทะเลจีนได้ตอนล่าง มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 10.0 องศาเหนือ ลองจิจุด 1135 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศ
ตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และคาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศเวียดนามในช่วงวันที่ 24-25 ธ.ค. 67 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศทำกำลังแรงตามลำดับ 

ส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 25-26 ธ.ค. 67 มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงได้พัดนำความขึ้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันออกเสียงเหนือกำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ 

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่อง พายุดีเปรสชัน บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง ฉบับที่ 1

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมเนฑล และภาคตะวันออกมีฝนเกิดขึ้นได้บางพื้นที่

ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง 

ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่อาจจะส่งต่อผลผลิตทางการเกษตรในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทย ตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร 

ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา คลิ๊ก