ภาษีที่ดิน ผ่อนปรนในหลายประเภทกิจการ โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยเพื่อเช่า เก็งกำไร เสียภาษีในอัตราที่อยู่อาศัย เช่นเดียวกับโฮมสเตย์ ที่ก่อนหน้านี้จัดอยู่ในประเภทพาณิชยกรรม กลุ่มเดียวกับโรงแรม ในที่สุดได้อนุโลมให้เสียภาษีในอัตราที่อยู่อาศัย หากเป็นอาคารชายคาเดียวกัน แบ่งห้องพักไม่เกิน 4 ห้อง เช่นเดียวกับที่ดินรกร้างว่างเปล่าหากนำมาทำการเกษตรจะเสียภาษีในอัตราเกษตร
ที่สำคัญที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 50 ล้านบาท รวมถึง ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม มูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท ได้รับยกเว้น และในส่วนที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กฎหมายเปิดช่องให้สามารถกระจายถือครองได้คราวละไม่เกิน 50 ไร่ หากไม่ต้องการเสียภาษี ที่ดินแต่ละแปลงต้องไม่ตั้งอยู่ในเขตตำบลเดียวกัน และต้องเป็นเอกสารสิทธิ์ประเภทโฉนดเท่านั้น
ขณะที่ดินประเภท นส.3 นส3.ก (หนังสือรับรองจากเจ้าหน้าที่ว่าได้ทำประโยชน์ในที่ดิน) และ สปก., ส.ป.ก. 4-01 นับล้านไร่ (เอกสารสิทธิให้ประชาชนเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน) กลับไม่ได้รับการคุ้มครอง ต้องเสียภาษีตั้งแต่บาทแรกโดยเริ่มวันที่ 1 สิงหาคม 2563 เป็นครั้งแรก สร้างความเดือดร้อนไม่น้อยสำหรับประชาชนและเกษตรกรผู้ยากไร้
แหล่งข่าวจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สาเหตุภาษีที่ดินต้องเรียกเก็บรายได้จากที่ดินประเภท นส.3, นส3.ก, สปก., สปก4-01 ฯลฯ ตั้งแต่บาทแรก เนื่องจากเป็นที่ดินที่เจ้าพนักงานอนุญาตให้ทำประโยชน์ แต่ไม่อนุญาตให้ครอบครอง ต่างจากโฉนดที่มีเจ้าของกรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ของกรมที่ดิน สำหรับอัตราจัดเก็บขึ้นอยู่กับประเภทกิจกรรมใช้ประโยชน์ หากใช้เพื่อการเกษตรจะเสียอัตราเกษตร 0.01% เป็นต้น
นายอธิป พีชานนท์ ประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ออกแบบและก่อสร้างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สะท้อนว่า ชาวบ้านที่ครอบครองที่ดินประเภทนส.3 มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ลำบาก ส่วนใหญ่อยู่บริเวณพื้นที่ชนบท, ในเขตป่า มีรายได้จากการทำการเกษตร แต่กลับต้องเสียภาษีที่ดินตั้งแต่บาทแรก มองว่า ไม่เป็นธรรม และพวกเขาเหล่านั้นไม่น่าจะทราบด้วยซ้ำไป เพราะมองว่า นส3ก., นส.3. ไม่ต่างจากโฉนดที่ดิน
อย่างไรก็ตาม การตี ความที่ดินที่ถือครองระหว่างโฉนดกับที่ดินประเภทนส.3กับนส.3ก ซึ่งทั้ง 3 สมาคมด้านอสังหาริมทรัพย์ประกอบด้วยสมาคมอาคารชุดไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยรวมถึงหอการค้าไทย จะยื่นหนังสือถึงรัฐบาลและกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการพิจารณาตีความซึ่งน่าจะมีการทบทวนการตีความใหม่ เพราะส่งผลกระทบในวงกว้างกับประชาชนและเชื่อว่ายังมีผู้ที่ยังไม่มีความรู้อีกมาก
นายอิสระ บุญยังกรรมการผู้จัดการบริษัทกานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เผยว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงและผู้ประกอบการเพิ่งรับทราบคือการเรียกจัดเก็บภาษีที่ดินกับที่ดินนส.3 และนส.3ก อาจส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการ อสังหาฯในต่างจังหวัด โดยเฉพาะกลุ่มที่พัฒนาโครงการก่อนปี 2543 ตามกฎหมายระบุว่าไม่ต้องยื่นขออนุญาตจัดสรรแต่หลังจากปี 2543 เป็นต้นมาต้องยื่นขออนุญาตจัดสรรทางออกสมาคมที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องหารือกันและอาจจะทำหนังสือถึงภาครัฐให้ทบทวน
นายกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ที่ปรึกษาสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะนักกฎหมาย ระบุว่า ตัวบทกฎหมายการถือครองที่ดินไม่เพียงเฉพาะเป็นการออกโฉนด แต่ควรรวมไปถึงผู้ได้ครอบครองที่ดินก็ถือสิทธิเป็นเจ้าของด้วยเช่นกัน
หน้า 2 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,581 วันที่ 7 - 10 มิถุนายน พ.ศ. 2563