พิษโควิด ‘โพไซดอน’ ทุบอ่าง สร้างโรงแรม3ดาว

โควิดระบาดรอบสอง ‘โพไซดอน’ เสนอรฟท. เจ้าของสัญญาเช่าที่ดินแปลงงาม 15ไร่ ติดถนนรัชดาฯ ขอ เปลียนธุกิจจาก อาบอบนวด เล็งทุบทิ้งอ่าง11ชั้น ปั้นโรงแรม3ดาว

การระบาดโควิดรอบใหม่ฝังรากซึมลึกลงสู่เศรษฐกิจฐานราก ยันธุรกิจรายใหญ่ยังต้านไม่ไหวถึงขั้น ปิดตัวลงหรือไม่ต้องปรับรูปแบบการบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้า ประคองพนักงานและเงินในกระเป๋าไปพลางๆ โดยเฉพาะธุรกิจเกี่ยวกับภาคบริการต่างๆหากไร้นักท่องเที่ยวย่อมยืนอยู่ยาก ล่าสุดถึงคิวระดับตำนาน ธุรกิจอาบอบนวดโพไซดอนย่านรัชดาฯ แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ระบุว่าขณะนี้ เจ้าของสถานบริการโพไซดอน ติดต่อรฟท.ปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ จากอาบอบนวดเป็นโรงแรมระดับ3ดาว

มองว่าโอกาสทางธุรกิจด้านนี้ยังพอดีโดยเฉพาะ โรงแรมรองรับกลุ่ม นักท่องเที่ยวในประเทศ กลุ่มสัมนา ประชุม หรือกลุ่มคนเดินทางจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพหมานคร เพื่อติดต่อเรื่องงาน เป็นต้นขณะระยะเวลาเช่ายังอยู่อีกหลายปีรวมถึงธุรกิจอื่นในย่านเดียวกัน

สำหรับที่ดินแปลงรัชดาฯซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานบริการโพไซดอน เนื้อที่15.4ไร่ ได้ยื่นขอต่อสัญญากับรฟท. ตั้งแต่ เดือนมิถุนายน 2559 อีก30ปี โดยเดิมจะสิ้นสุดสัญญา วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 แต่เนื่องจากเกิดสถานการโควิดเล่นงาน รอบ2 จึงขอ ปรับปรุงดัดแปลงอาคารสูง 11 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 10,656 ตร.ม. เปลี่ยนจากธุรกิจอาบอบนวดเป็นโรงแรมระดับ3 วงเงิน 200 ล้านบาทซึ่งรฟท.มองว่าสามารถทำได้ ประกอบกับธุรกิจ อาบอบนวด คนใช้บริการนิยมน้อยลงหรืออยู่ในช่วงขาลง ใช้ต้นทุนสูงอีกทั้งยังเกิดระบาดโควิด นักท่องเที่ยวจึงหดหายโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ

“ผู้เช่าหลายแปลงแจ้งความประสงค์จะต่อสัญญาเช่า บางรายอนุมัติไปแล้ว บางรายขอดัดแปลงอาคารใหม่ให้สอดรับกับเศรษฐกิจปัจจุบันเช่นโพไซดอน”

อย่างไรก็ตามขณะนี้รฟท.อยู่ระหว่างพิจารณา รวมทั้งการประเมินมูลค่าทรัพย์สินสัญญาเช่าที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษก 124 แปลง (124 สัญญา) ตั้งแต่แยกศูนย์การค้าเดอะสตรีท ไปตลอดแนวจนถึงสำนักงานใหญ่ SCB และจุดตัดถนนวิภาวดีรังสิต ที่ทยอยหมดสัญญาเช่าในปี 2563-2567 ไล่ตั้งแต่ พื้นที่ลานจอดรถของศูนย์การค้าเดอะสตรีท ที่จอดรถโรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ สถานบริการอาบอบนวดโพไซดอน สถานีตำรวจสุทธิสาร สถานีตำรวจพหลโยธิน ศาลอาญา บางกอกไนซ์บาซาร์ เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมา รฟท.มีรายได้จากค่าเช่าย่านถนนรัชดาฯเฉลี่ยปีละ 200 กว่าล้านบาท หากมีการเจรจาต่อสัญญาใหม่จะทำให้ ได้ค่าเช่าเพิ่ม

แหล่งข่าวกล่าวว่า ส่วนที่คณะกรรมการ (บอร์ด) อนุมัติต่อสัญญาแล้ว อาทิ บจ.แบงค์ค็อกไนท์บาซาร์ เจ้าของโครงการบางกอกไนท์บาซาร์ แยกรัชดาฯ-ลาดพร้าว เนื้อที่ 9 ไร่ โดยต่อให้อีก 30 ปี ตั้งแต่ปี 2562-2592 รฟท.ได้ผลตอบแทน 5,000 ล้านบาท และต่อสัญญาเช่าที่ดิน 7 ไร่ ให้กับ บริษัทไทยวัฒน์เคหะ อีก 20 ปี เริ่มปี 2565-2585 ได้ค่าตอบแทน 83 ล้านบาท

ทั้งนี้สำหรับการเช่ามี 2 สัญญา คือ สัญญาสร้าง 4 ปี วันที่ 1 มี.ค. 2533-วันที่ 28 ก.พ. 2537 และสัญญาจัดหาประโยชน์ที่ดิน ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2537-29 ก.พ. 2567 มีอาคาร 11 ชั้น เป็นสถานที่อาบอบนวดโพไซดอน 1 อาคาร และอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 32 คูหา และ 7 ชั้น 3 คูหาเป็นต้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง