นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builder Association : HBA) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดธุรกิจรับสร้างบ้านปี 2563 ที่ผ่านมาโดยรวมตลาดลดลง 5% มาอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท (เท่ากับปี 2561) จากเดิมที่ประมาณการทั้งปีมีมูลค่าตลาดรวมน่าจะอยู่ราว 12,500 ล้านบาท
สาเหตุที่ตลาดรวมลดลงนั้นมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (Covid-19) ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 ต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2563 ทำให้หยุดการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ทางเศรษฐกิจ และสมาคมฯ เองก็ได้ลดการจัดกิจกรรมการตลาดเหลือเพียงครั้งเดียวเดือนตุลาคม
จากปกติในแต่ละปีจะจัด 2 ครั้ง คือในช่วงเดือนมีนาคมและตุลาคม ภายใต้ชื่อ “งานรับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2020” แต่เนื่องจากมาตรการปิดเมือง (Lockdown) ตามการบังคับใช้ พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน การรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ทำให้ต้องหยุดการจัดงานในช่วงเดือนมีนาคมไป
ทั้งนี้ ในเร็วๆ นี้ สมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ซึ่งสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านก็เป็นสมาชิกด้วยนั้นจะเข้าพบ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อหารือถึงข้อสรุปมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และประชาชนที่ปลูกสร้างบ้านบนที่ดินของตนเอง หลังจากที่ผ่านมา บ้านสร้างเอง ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจนั้น ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือใดๆ จากมาตรการของรัฐในแง่ต่างๆ ที่ระบุจำกัดแค่เฉพาะบ้านใหม่ และบ้านมือสองเท่านั้น
จึงอยากให้รัฐบาลเพิ่มนิยามการดูแลช่วยเหลือให้ครอบคลุมมายังการปลูกสร้างบ้านเองด้วย เนื่องจากในปัจจุบันตลาดดังกล่าวมีมูลค่ามหาศาล มากถึง 2 แสนล้านบาทต่อปี กระจายตามภูมิภาคต่างๆ ขณะแนวโน้มการปลูกสร้างบ้านเองของผู้บริโภค ระดับราคาสูงขึ้นอย่างมีนัยยะ ซึ่งหากรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังได้ข้อสรุปหรือมีการออกมาตรการมาสนับสนุน เชื่อว่าจะเป็นอีกแรงกระตุ้นการตัดสินใจของประชาชนผู้บริโภค โดยในส่วนของตลาดรวมธุรกิจรับสร้างบ้านในปีนี้คาดว่าน่าจะมีมูลค่า 12,000 – 12,500 ล้านบาท ตามข้อเสนอแนะหลักๆ โดยเฉพาะข้อ 1 และ ข้อ 2 ดังนี้
1.ขอลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ และจด จำนอง 0.01% สำหรับมูลค่า 5 ล้านบาทแรก
2.สินเชื่อเพิ่มเติม (soft loan) สำหรับที่อยู่อาศัย รายละไม่เกิน 5 ล้านบาท ผ่านการดำเนินการของธนาคารรัฐ
3.ยกเลิกมาตรการแอลทีวี
4.สานต่อโครงการบ้านดีมีดาวน์
อย่างไรก็ตาม นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านยังยอมรับว่า จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (Covid-19) รอบ 2 ในปัจจุบันนี้ เชื่อว่ารัฐบาลน่าจะควบคุมได้และหวังว่าจะเกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ ประกอบกับการที่รัฐบาลได้มีความชัดเจนเรื่องวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ที่ตามข่าวออกมาว่าได้ขึ้นทะเบียนอย.ไทยแล้ว
หากมีการเริ่มฉีดให้กับประชาชนแล้วได้ผลดีจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนได้ และเชื่อว่ากลางปี 2564 ทุกอย่างน่าจะดีขึ้นแน่นอน แต่อย่างไรก็ดี เพื่อรองรับกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ทางสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านและสมาชิกได้เตรียมความพร้อมแบบคู่ขนานไปกับการจัดงานแบบออฟไลน์ “งานรับสร้างบ้าน Focus 2021” นั่นก็คือ ทำการตลาดแบบออนไลน์เสมือนจริง (Virtual Online)
สำหรับในปี 2564 สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านได้สานต่อนโยบายต่อเนื่องจากปีก่อนใน 3 เรื่องหลักๆ ดังนี้ คือ
1. การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและงานขาย เพื่อช่วยเหลือสมาชิกของสมาคมฯ และเพื่อให้ผู้บริโภคมีโอกาสในการเข้าถึงการบริการของบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ได้มากขึ้นผ่านการจัดงานใหญ่ประจำปี 2 ครั้งเหมือนเดิมภายใต้ชื่อ “งานรับสร้างบ้าน Focus 2021” ในช่วงเดือนมีนาคม และ “งานรับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2021” ในช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งปีนี้จัดที่ศูนย์การแสดงสินค้าเมืองทองธานี
ในรูปแบบ 3 มิติเข้ามาเสริม บนเว็บไซต์ ของสมาคมฯ www.hba-th.org ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้ามาดูรายละเอียดต่างๆได้สะดวกยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การทำการตลาดแบบ Virtual Online ขณะนี้ยังไม่ได้สรุปแน่ชัดว่าจะทำไปพร้อมๆ กับช่วงการจัดงาน หรือ จะทำหลังการจัดงานรับสร้างบ้านและวัสดุฯ เรื่องนี้คงพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง
2. โครงการจัดทำ “มาตรฐานกลางการก่อสร้าง” โดยสมาคมฯได้ร่วมกับภาควิชาวิศวกรรมโยธาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำมาตรฐานกลางการก่อสร้างขึ้นมาในทุกๆระบบงานก่อสร้างที่เกี่ยวกับการก่อสร้างบ้าน การจัดทำโครงการนี้ขึ้นมาจะเกิดประโยชน์ใน 3 ด้านคือ
2.1) เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานงานบริการในธุรกิจรับสร้างบ้านของสมาชิกสมาคมฯ
2.2) เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ผู้บริโภค
2.3) เพื่อช่วยลดข้อขัดแย้งหรือข้อพิพาทระหว่างลูกค้ากับบริษัทรับสร้างบ้าน
และ 3. โครงการ “แบบบ้านประหยัดพลังงาน” หรือ “บ้านเบอร์ 5” โดยคาดว่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 นี้สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านจะได้ลงนามหนังสือบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่างสมาคมฯกับ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน ตามนโยบายการส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อพัฒนาประเทศและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนที่ผ่านมา พพ. ให้ความสำคัญกับแนวคิดบ้านประหยัดพลังงาน และส่งเสริมความรู้ความเข้าใจสู่ประชาชนภาคครัวเรือนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสมาชิกของสมาคมฯ ได้เข้าร่วมกับ พพ.มาตลอดเช่นกัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง