ครึ่งปีแรกของพ.ศ. 2563 ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจผันผวนมากกว่าวิกฤตเศรษฐกิจครั้งไหน ๆ มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส หรือสงครามทางการค้าระหว่างประเทศอันดุเดือด แม้แต่ในช่วงวิกฤตการเงินโลก (GFC) ปี 2551 ระบบเศรษฐกิจทั่วโลกก็ไม่ได้ถดถอยหนักเท่าครั้งนี้
ความปั่นป่วนของระบบเศรษฐกิจโลกกระทบหลายอุตสาหกรรมจนกิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัว ลามไปถึงภาคการลงทุน ที่ตลาดหุ้นไทยตกลงไปกว่า 570 จุดในช่วงไตรมาสแรกของปี ก่อนที่จะเด้งกลับขึ้นมา 400 กว่าจุด ในระหว่างไตรมาสที่สอง
ในขณะที่นักลงทุนเฝ้าติดตามทิศทางของตลาดอย่างใกล้ชิดเพื่อตัดสินใจเลือกลงทุนอย่างระมัดระวัง สิ่งที่ควรคำนึงถึงเมื่อพิจารณาตัวเลือกด้านการลงทุนคือ รากฐานองค์กรที่แข็งแกร่ง ความเข้าใจสถานการณ์เศรษฐกิจ และการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ต่าง ๆ ขององค์กร ถึงจะเป็นการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
นายวิลเลียม ไฮเน็ค ประธานกรรมการ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (มหาชน) หรือ MINT เปิดเผยว่า แม้ธุรกิจของไมเนอร์จะได้รับผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้จากเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย แต่องค์กรยังมีความมั่นใจในประสบการณ์และความแข็งแกร่งของ ไมเนอร์ ซึ่งสามารถสะท้อนมาจากมุมมองต่าง ๆ ดังนี้
ย้อน 20 ปี กำไร ต่อเนื่อง
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ไมเนอร์มีผลการดำเนินงานที่มีกำไรอย่างต่อเนื่อง ภายใต้สถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 วิกฤตทางการเมืองในประเทศ และน้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 ซึ่งเราสามารถฝ่าฟันไปได้ และทำให้เราขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยง
พร้อมเพิ่มความหลากหลายในธุรกิจของเรา เช่นธุรกิจร้านอาหารในประเทศจีน ธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศ อย่าง โอ๊คส์ โฮเทล ในออสเตรเลีย ทิโวลี โฮเทล และ เอ็นเอช โฮเทลส์ ในยุโรปและลาตินอเมริกา ปัจจุบัน ไมเนอร์ เป็นผู้นำกลุ่มธุรกิจ โรงแรม ร้านอาหาร และไลฟ์สไตล์ มีการจ้างงาน และสร้างอาชีพร่วมหลายหมื่นคน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไมเนอร์ ' จ่อระดมทุนเพิ่ม 2.5หมื่นล.รับมือโควิด
‘ไฮเนคกี้’ ถอดรหัส ไมเนอร์ กรุ๊ป ฝ่าวิกฤติโควิด-19
"ไมเนอร์" แจงธุรกิจเริ่มส่งสัญญาณบวกหลังคลายล็อกดาวน์
โควิด-19 กระทบหมด มากน้อย อยู่ที่การปรับตัวของธุรกิจ
สถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกในเวลานี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า มันส่งผลกระทบกับธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้จะเป็นปีที่ไม่ดีนัก แต่ไม่ใช่เพราะการดำเนินธุรกิจของบริษัท แต่เป็นสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อทุกธุรกิจทั่วโลก ไมเนอร์ได้ปรับตัวทั้งการสร้างมาตรฐานสุขอนามัยสำหรับธุรกิจโรงแรม บริหารส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ที่บริษัทเป็นรายแรก ๆ ในประเทศไทย และยังเป็นผู้นำมาตลอด 20 กว่าปี ไปจนถึงการใช้ช่องทางออนไลน์ในการให้บริการ รวมทั้งการปรับธุรกิจให้เข้ากับวิถีชีวิตแบบใหม่ หรือ New Normal การลดต้นทุนต่าง ๆ เพื่อให้เราสามารถผ่านพ้นสถานการณ์โควิด-19 ครั้งนี้ไปให้ได้
เรากำลัง Reopening อย่างต่อเนื่อง
องค์กรเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของธุรกิจทั้งในและต่างประเทศแล้ว โรงแรมในกลุ่มไมเนอร์ โฮเทลส์ ทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดท่องเที่ยวอื่น ๆ ทั่วไทย ได้ทยอยเปิดให้บริการและพร้อมขานรับมาตรการเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยผู้ใช้บริการจะสามารถรับสิทธิ์ พร้อมสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ ห้องพักราคาพิเศษ ส่วนลดอาหาร เครื่องดื่ม สปา สิทธิ์อัพเกรดห้องพักในกรณีที่มีห้องว่าง สิทธิ์เช็คอิน เช็คเอ้าท์ ก่อนและหลังเวลาปกติ เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีเข้าพักฟรี บริการรถรับส่งสนามบิน ฯลฯ ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณอันดีของโรงแรมในประเทศไทยที่จะกลับมาครึกครื้น
ทุกโรงแรมเน้นสุขอนามัยสูงสุด
นอกจาก มาตรการ “พักอย่างสบายใจ” (Stay with Peace of Mind) ของเครือโรงแรมอนันตราและมาตรการ “อวานี ชิลด์” (AvaniSHIELD) ของเครือโรงแรมอวานี ที่ได้รับประกาศนียบัตรมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจากโครงการ Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA
ไมเนอร์ยังยกระดับมาตรฐานบริการด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อสุขอนามัยสูงสุดในธุรกิจต่าง ๆ โดยทำงานกับผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ อีโค่แล็บ (ECOLAB) กับไดเวอร์ซี่ (Diversey) เป็นต้น เพื่อเพิ่มคุณค่าการเข้าใช้บริการและรับมือสถานการณ์โควิด-19 นอกจากนี้ไมเนอร์ยังนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อสอดรับกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ที่พฤติกรรมของผู้คนเอนเอียงไปทางโลกดิจิทัลที่อำนวยความสะดวกและปลอดภัยต่อการติดโรคโควิด-19 ซึ่งจะช่วยองค์กรให้ทันตามโลกเศรษฐกิจ
ไมเนอร์ เดินแผนสร้างความเข้มแข็ง
ที่ผ่านมา ไมเนอร์ได้ประกาศแผนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน ซึ่งเป็นแผนเบ็ดเสร็จในครั้งเดียว นอกจากจะทำให้ฐานะการเงินของเรามีความแข็งแกร่งขึ้น พร้อมรักษาวินัยทางการเงินแล้ว ยังสามารถรองรับวิกฤตโควิด-19 และไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนในอีก 2 ปีข้างหน้าอีกด้วย โดย
นาย วิลเลียม ในฐานะผู้ก่อตั้ง และ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ MINT เผยว่าเขาจะใช้สิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้และจะจองซื้อเกินกว่าสิทธิ ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การเพิ่มทุนในครั้งนี้จะได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นและนักลงทุน และทำให้เราได้รับเงินทุนในครั้งนี้ครบตามจำนวน
ขอบคุณนักลงทุนที่อยู่เคียงข้าง
ผมขอขอบคุณผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทุกท่านที่ยังคงเชื่อมั่นและให้การสนับสนุนธุรกิจของไมเนอร์มาเป็นอย่างดีและยาวนานมาร่วมกว่า 50 ปี หลายท่านถือหุ้นของไมเนอร์ ตั้งแต่เมื่อครั้งที่องค์กรนำ 3 ธุรกิจ คือ โรงแรม ร้านอาหาร และไลฟ์สไตล์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก่อนที่เราจะรวมทั้ง 3 ธุรกิจภายใต้ ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ MINT มาจนถึงปัจจุบัน และเราจะยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นของเราอย่างต่อเนื่องต่อไป ดังที่เราได้ทำมาตลอดในอดีต
อย่างไรก็ตาม แผนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน ซึ่งได้รับอนุมัติจากท่านผู้ถือหุ้นแล้ว ประกอบด้วยการออกหุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุน หรือ Perpetual bond ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งประสบความสำเร็จแล้ว และการออกหุ้นเพิ่มทุนในอัตราส่วน 8.2 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาเสนอขาย 17.50 บาท และการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 7 หรือ MINT-W7 ให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท ตามสัดส่วนการถือหุ้น
หลังเสร็จสิ้นการขายหุ้นเพิ่มทุนที่ 22 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วย โดยมีราคาใช้สิทธิแปลงสภาพ 21.60 บาท และสามารถใช้สิทธิได้ในระยะเวลา 3 ปี MINT ได้กำหนดช่วงเวลาจองซื้อและชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ ระหว่างวันที่ 17-23 กรกฎาคม 2563นี้