ลอรีอัล กรุ๊ป ประกาศวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนในระดับโลก มาตั้งแต่ปี 2013 แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วจากผลพวงของวิกฤติด้านสิ่งแวดล้อม และวิกฤติโควิด -19 ทำให้ลอรีอัล กรุ๊ป จัดทำวิสัยทัศน์เพื่อความยั่งยืนใหม่ “L”Oreal for The Future” โดยเร่งสร้างการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานต่างๆ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาด้านสังคม และสิ่งแวดล้อมโลก ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น พร้อมกันนี้ ยังจัดทำการแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการตรวจสอบ เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภครับรู้และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน ซึ่งทั้งหมดจะต้องบรรลุเป้าหมายภยในปี 2030
ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ลอรีอัล ยังเป็นหนึ่งในองค์กรภาคธุรกิจ ที่ร่วมถ่ายทอดความรู้เพื่อสนับสนุนความยั่งยืน ในงาน Sustainability for Business Forum (SBF20) ครั้งที่ 4 ในหัวข้อการ Green Recovery ที่จัดโดย หอการค้าฝรั่งเศส-ไทย หอการค้าเนเธอร์แลนด์-ไทย และหอการค้าไทย-สวีเดน เพื่อสนับสนุนการทำงานเพื่อความยั่งยืนในภาคธุรกิจ และช่วยหาแนวคิดใหม่ๆ ที่จะมาสร้างวิถีชีวิตใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมถึงสร้างการมีส่วนร่วมให้ผู้บริโภคคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในที่สุด
ในการเสวนาให้ความสำคัญกับ 3 เรื่องหลัก คือ เมืองอัจฉริยะที่ยั่งยืนและมีพลวัต ไลฟ์สไตล์ด้านแฟชั่นและความงามที่ยั่งยืน และอาหารแห่งอนาคต โดย "อินเนส คาลไดรา" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจบนแนวทางด้านความยั่งยืน จะส่งผลกระทบเชิงบวกต่อโลก ชุมชน สังคม รวมถึงธุรกิจในระยะยาว โดยะสะท้อนให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นและเกิดความไว้วางใจ
พันธกิจ “L’ORÉAL FOR THE FUTURE” ของลอรีอัลกำลังเดินหน้า สู่เป้าหมายภายในปี 2030 อาทิ ทุกสถานประกอบการของลอรีอัล ต้องปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ บรรจุภัณฑ์ 100% ต้องมาจากพลาสติกรีไซเคิลหรือแหล่งวัสดุชีวภาพ 100% ของส่วนผสมฐานชีวภาพในสูตรและวัสดุฐานชีวภาพของบรรจุภัณฑ์จะสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้และมาจากแหล่งยั่งยืน และบนผลิตภัณฑ์จะต้องแสดงข้อมูลผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมแบบระดับคะแนนทางเว็บไซต์
ส่วนของสังคม "อรอนงค์ ประทักษ์พิริยะ" ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและองค์กรสัมพันธ์ ลอรีอัล กล่าวว่า ลอรีอัลได้จัดซื้อน้ำมันรำข้าวหอมมะลิจากสหกรณ์ในภาคอีสาน สำหรับใช้ เพื่อเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและดูแลผิวหลายตัวของบริษัทฯ เผื่อสนับสนุนเกษตรกรรายย่อย ส่งเสริมการค้าอย่างเป็นธรรม รวมถึงช่วยพัฒนาระบบวนเกษตร อีกด้วย
หน้า 23 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 3,622 วันที่ 29 - 31 ตุลาคม พ.ศ. 2563