รางวัลทั้ง4 รางวัล จาก 3 เวที ที่คิงเพาเวอร์ได้รับการคัดเลือก ได้แก่ รางวัล ดีเอฟเอ็นไอ-ฟรอนเทียร์ เอเชีย แปซิฟิก อวอร์ด 2020, รางวัล เวิลด์ ทราเวล อวอร์ด 2020 และล่าสุดรางวัล เวิลด์ แบรนด์ดิ้ง อวอร์ด 2020-2021
โดยเป็นรางวัลความภาคภูมิใจในฐานะผู้ประกอบการคนไทยที่ได้รับรางวัลอย่างต่อเนื่อง สำหรับการบริหารจัดการธุรกิจที่ได้รับการยอมรับระดับสากลท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า “ความมุ่งมั่นในการสร้างประสบการณ์ระดับโลกที่ไร้ขีดจำกัด พร้อมกับการยกระดับและพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศไทยให้ได้รับการยอมรับในระดับสากล ควบคู่ความรับผิดชอบต่อสังคม เป็นวิสัยทัศน์สำคัญในการบริหารธุรกิจมากกว่า 30 ปี
ถึงวันนี้ คิง เพาเวอร์ ได้รับการยอมรับในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวคนไทยที่พัฒนาธุรกิจดิวตี้ ฟรี, ผู้ประกอบการที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืน และการสร้างแบรนด์ในธุรกิจท่องเที่ยวจนเป็นที่ยอมรับตามมาตรฐานสากล และมีส่วนช่วยให้นานาชาติรู้จักคนไทยและประเทศไทยมากขึ้น
“ในปี 2020 ที่ผ่านมา ต่อเนื่องปี 2021 คิง เพาเวอร์ ยังคงยืนหนึ่งในการรับ 4 รางวัลจาก 3 เวที ทั้งระดับภูมิภาคเอเชียและระดับโลก ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างที่สุด ในการเป็นสื่อกลางช่วยประชาสัมพันธ์ประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักและได้รับการยกย่องบนเวทีระดับโลก
รางวัลอันทรงคุณค่าเหล่านี้ไม่เพียงช่วยยกระดับเกียรติประวัติของประเทศไทยให้ก้าวไกลในระดับนานาชาติ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน และแสดงศักยภาพในการบริหารจัดการธุรกิจ แม้ในปีที่ผ่านมาธุรกิจทั่วโลกต่างเผชิญสถานการณ์โควิด-19
รางวัลอันทรงเกียรติที่ได้รับสำหรับธุรกิจดิวตี้ ฟรี อีกครั้ง คือ รางวัลจากเวที ‘ดีเอฟเอ็นไอ-ฟรอนเทียร์ เอเชียแปซิฟิก อวอร์ด’(DFNI-Frontier Asia Pacific Awards) โดยในปี 2020 คิง เพาเวอร์ ได้รับ 2 รางวัลจากเวทีนี้
รางวัลแรกคือ รางวัลผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกสนามบินที่บริหารงานยอดเยี่ยม หรือ Asia Pacific Airport Travel Retailer of the Year รางวัลที่สามารถการันตีถึงความเป็นมืออาชีพของ คิง เพาเวอร์ ในการบริหารจัดการร้านค้าจำหน่ายสินค้าปลอดอากรภายในท่าอากาศยานและร้านค้าเชิงพาณิชย์ ที่มีการพัฒนาให้สามารถตอบโจทย์ด้านสินค้า บริการ สำหรับนักเดินทางทั่วโลก
โดย คิง เพาเวอร์ ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดชนะผู้เข้าแข่งขันจากธุรกิจดิวตี้ฟรี อีก 3 ราย ได้แก่ Delhi Duty Free ประเทศอินเดีย, Hyderabad Duty Free ประเทศอินเดีย และ The Shilla Duty Free ประเทศเกาหลีใต้ รวมถึงเป็นครั้งแรกของ คิง เพาเวอร์ ในเวที ‘ดีเอฟเอ็นไอ-ฟรอนเทียร์ เอเชีย แปซิฟิก อวอร์ด’
สำหรับการได้รับรางวัลผู้ประกอบการที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืน หรือ CSR or Sustainability Initiative of the Year โดยกิจกรรมเพื่อสังคมของ คิง เพาเวอร์ ชนะผู้เข้าชิงรางวัลจากธุรกิจดิวตี้ฟรี และโครงการในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อีก 5 ราย
ได้แก่ Delhi Duty Free ประเทศอินเดีย, Dubai Duty Free สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, Lotte Duty Free ประเทศเกาหลีใต้, Ever Rich Duty Free สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และโครงการ Wild Tiger’s Roar Trip ประเทศอินเดีย
โดยคิง เพาเวอร์ ดำเนินการกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องผ่านโครงการเพื่อสังคมในด้านกีฬาดนตรี และด้านชุมชน ที่ดำเนินการแล้วอย่างเป็นรูปธรรมและก่อให้เกิดประโยชน์กับสังคมแล้วมากกว่า 12 โครงการ
นอกเหนือจากรางวัลที่สะท้อนความเป็นมืออาชีพในการบริหารจัดการร้านค้าจำหน่ายสินค้าปลอดอากรภายในท่าอากาศยานและร้านค้าเชิงพาณิชย์ในสนามบิน และรางวัล CSR ที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมธุรกิจท่องเที่ยวแล้ว
คิง เพาเวอร์ยังได้รับอีกหนึ่งรางวัลสำคัญของวงการดิวตี้ ฟรี ระดับภูมิภาคอาเซียน จากเวที ‘เวิลด์ ทราเวล อวอร์ด 2020’ (World Travel Awards 2020)
โดยยังคงครองความเป็น 1 ใน 10 ธุรกิจดิวตี้ ฟรี ที่คว้ารางวัลผู้ประกอบการดิวตี้ฟรีสนามบินยอดเยี่ยมแห่งภูมิภาคเอเชียประจำปี 2563 หรือ Asia's Leading Airport Duty Free Operator 2020 อย่างต่อเนื่อง
รวมถึงรางวัลในเวทีระดับโลก ที่เพิ่งมีการประกาศผลล่าสุดจากเวที World Branding Forum (WBF) คิง เพาเวอร์ ได้รับรางวัล “Brand of the Year” ‘เวิลด์ แบรนด์ดิ้ง อวอร์ด 2020-2021’ (WorldBranding Awards 2020-2021) สาขา Duty Free - Thailand (National Tier) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6
แบรนด์ที่จะพิชิตรางวัลนี้ ต้องเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค เนื่องจาก 70% ของคะแนนในการคัดเลือกมาจากคะแนนโหวตเลือกแบรนด์ในดวงใจของผู้บริโภค
ทั้งหมดเป็นรางวัลที่สะท้อนถึงศักยภาพของธุรกิจท่องเที่ยว ที่บริหารจัดการโดยคนไทยเพื่อคนไทยและเป็นที่ยอมรับทั้งในระดับภูมิภาคและในระดับโลก
สำหรับปี 2564 นี้ คิง เพาเวอร์ ยังคงมุ่งมั่นสำหรับการพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศไทย ให้มีความพร้อมในทุกมิติ โดยเฉพาะการสร้างบรรทัดฐานใหม่ในการให้บริการ ที่ถึงพร้อมด้านมาตรฐานสุขอนามัยซึ่งจะมีความสำคัญไม่แพ้การตอบโจทย์ธุรกิจท่องเที่ยวในด้านอื่นๆ ” นายอัยยวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: