ม.มหิดล ประกาศงดรับทุนทุกรูปแบบจากบริษัทบุหรี่และเครือข่าย

18 มี.ค. 2564 | 06:05 น.
อัปเดตล่าสุด :22 มี.ค. 2564 | 11:39 น.

มหาวิทยาลัยมหิดล ประกาศงดรับทุนทุกรูปแบบจากบริษัทบุหรี่และเครือข่าย ตัดปัญหาการแทรกแซงทางความคิด และการชี้นำสังคม พร้อมเชิญชวนทุกมหาวิทยาลัย ร่วมแสดงเจตนารมณ์ที่จะไม่ร่วมมือ กับบริษัทบุหรี่

รศ.ดร.นภเรณู สัจจรักษ์ ธีระฐิติ ฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ และสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยเล็งเห็นถึงปัญหาการแทรกแซงของบริษัทบุหรี่และองค์กรที่เกี่ยวข้อง ในการเข้ามาสร้างความสัมพันธ์โดยผ่านการให้ทุนการทำวิจัย การศึกษาดูงาน และ การอุปถัมภ์อื่นๆ ที่จะนำมาซึ่งผลประโยชน์ทับซ้อนในการดำเนินกิจการหลักของมหาวิทยาลัยในการผลิตข้อมูลความรู้ และชี้นำสังคม อย่างเป็นกลาง มีอิสระทางวิชาการ มหาวิทยาลัยจึงประกาศเจนารมณ์ “เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพมหาวิทยาลัยมหิดลร่วมใจสร้างจุดยืนไม่รับทุนวิจัยและการสนับสนุนจากบริษัทบุหรี่” เพื่อสร้างระบบธรรมภิบาลภายในองค์กรที่จะงดรับทุนจากบริษัทบุหรี่ทุกรูปแบบ รวมทั้งเชิญชวนมหาวิทยาลัยทุกแห่งในประเทศไทย ร่วมแสดงเจตนารมณ์เช่นกัน

ม.มหิดล ประกาศงดรับทุนทุกรูปแบบจากบริษัทบุหรี่และเครือข่าย

ตลอดปี พ.ศ. 2563 ถึงต้นปี พ.ศ. 2564 เกิดการระบาดใหญ่ของเชื้อโควิด-19 ไปทั่วทั้งโลก มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 121 ล้านคน และทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 2.68 ล้านคน โดยสาเหตุการเสียชีวิตจำนวนมาก เกิดภาวะการหายใจลำบากเฉียบพลันหรือภาวะหายใจล้มเหลว 

ศ.นพ.บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

หากแต่ในช่วงเริ่มต้นของการระบาดครั้งนี้ กลับมีนักวิชาการที่คาดว่า มีสายสัมพันธ์กับบริษัทบุหรี่ให้ข้อมูลว่าการสูบบุหรี่ไม่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 ในขณะที่ข้อมูลของนักวิชาการที่มีความเป็นอิสระ จากมหาวิทยาลัยที่ไม่เกี่ยวข้องหรือไม่รับทุนจากบริษัทบุหรี่ แสดงให้เห็นว่าการสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้ความรุนแรงของโรคโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น 

คณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัย จึงมีความกังวลว่า นักวิชาการในมหาวิทยาลัยอาจจจะถูกโน้มนำและตกเป็นเครื่องมือของบริษัทบุหรี่ ในการให้ข้อมูลที่บิดเบือนต่อสังคม และไปส่งเสริมพฤติกรรมการสูบบุหรี่ มหาวิทยาลัยมหิดลจึงประกาศนโยบายชัดเจนว่าจะไม่ร่วมมือหรือรับทุนใดๆ จากบริษัทบุหรี่ และเครือข่ายของบริษัทบุหรี่

 

ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า ในประเทศไทย มีพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 มาตรา 35 ที่ห้ามผู้ประกอบการและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้การอุปถัมภ์ บุคคล กลุ่มบุคคล หน่วยการของรัฐ ซึ่งรวมถึงมหาวิทยาลัยด้วย การประกาศงดรับทุนทุกรูปแบบจากบริษัทบุหรี่จึงสอดคล้องกับกฎหมายไทย และ ช่วยให้บุคลากรในมหาวิทยาลัยมหิดลและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ สามารถทำหน้าที่อย่างเป็นอิสระ ไม่ละเมิดกฎหมาย และผลิตผลงานวิชาการ ที่ก่อประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นางบังอร ฤทธิภักดี ผู้อำนวยการศูนย์ธรรมาภิบาลในการควบคุมการบริโภคยาสูบ กล่าวว่า ขณะนี้มีมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกกว่า 20 แห่ง เช่น มหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ ได้ประกาศนโยบายไม่รับทุนและไม่ร่วมกิจกรรมใด ๆ กับบริษัทบุหรี่ และเครือข่ายของบริษัทบุหรี่ อาทิ มูลนิธิและองค์กรต่างๆ ที่บริษัทบุหรี่จัดตั้งขึ้น 

 

ที่สำคัญการที่มหาวิทยาลัยมหิดลและมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วโลก ประกาศไม่ร่วมมือทุกรูปแบบกับ บริษัทบุหรี่นี้ ยังเป็นไปตามกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบ (Framework Convention on Tobacco Control; WHO FCTC) ซึ่งเป็นกฎหมายระหว่างประเทศฉบับแรกที่องค์การอนามัยโลกจัดทำขึ้นเพื่อช่วยในการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบอันเป็นสินค้าที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งคร่าชีวิตคนทั่วโลกถึงปีละ 8 ล้านคน