แนวทางการบริหารธุรกิจที่แตกต่างระหว่างเจนเนเรชั่น ไม่ได้หมายความว่าวิธีการของใครผิดหรือถูก แต่นั่นคือความเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา และโอกาสทางธุรกิจที่แต่ละเจนมองเห็น เช่นเดียวกับ ความต่างระหว่างเจนแรก ของ บริษัทเฮ้าส์เคม จำกัด ที่สร้างบริษัทขึ้นจากความถนัดและมองเห็นโอกาสทางการตลาด จนเริ่มก่อตั้งบริษัท เริ่มต้นเป็นผู้จำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับ เคมีภัณฑ์, ยา และแร่ธาตุที่ใช้ในอาหารสัตว์ แก่ลูกค้าที่อยู่ในโซนปริมณฑล และขยายตลาดออกสู่จังหวัดต่างๆ และเริ่มขยายตลาดสู่ต่างประเทศ ด้วยสินค้าในกลุ่มวิตามินและสารเสริมในอาหารสัตว์
เมื่อเจนสอง “คุณคิม-ทัชชกร อริยสิทธิ์” เข้ามาสานต่อจากคุณพ่ออเนก อริยสิทธิ์ นั่งทำหน้าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮ้าส์เคม จำกัด เขาเริ่มมองเห็นโอกาสในการขยายตลาดใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีก ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ที่มีมากกว่า 21 ล้านตันต่อปี มูลค่าเกือบแสนล้านบาท แต่การจะเดินหน้าได้คล่องตัวในยุคที่การแข่งขันสูงมากๆมีผู้เล่นในตลาดเป็นหลักพันหลักหมื่นราย รูปแบบการทำงานก็ต้องเปลี่ยนไป
“เราต้องการก้าวไปสู่ตลาดระดับโลก ในการผลิตวัตถุดิบ อาหารสัตว์ โดยมุ่งเน้นการลดปัญหาและยกระดับการเลี้ยงสัตว์ให้สูงขึ้น จากรุ่นคุณพ่อ เฮ้าส์เคมทำหน้าที่เป็นผู้รับจ้างผลิต แต่ตอนนี้ เราสร้างแบรนด์ของตัวเองและสร้างความแข็งแกร่งในการเติบโตอย่างยั่งยืน”
สิ่งที่เริ่มทำตั้งแต่เริ่มบริหารเต็มตัว คือการเติมเต็มด้วยทีมงานคุณภาพทั้งในเชิงความรู้และประสบการณ์ในสายธุรกิจอาหารสัตว์เพื่อร่วมกันลงมือ สรรหาและพัฒนาสินค้า พร้อมกับการดูแลลูกค้าทุกรายอย่างใกล้ชิด ให้ความรู้และให้คำแนะนำในการนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง รวมถึงพยายามทำข้อมูลและเอกสารให้มีการตรวจสอบย้อนกลับได้ มีการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ด้วยมาตรฐานระดับโลก
ขณะเดียวกัน ผู้บริหารเจนสองคนนี้ ยังเดินทางไปศึกษาดูงานเข้าร่วมงานแสดงสินค้าต่างๆ ทั้งในยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชีย พร้อมทั้งติดต่อประสานงานกันจนทำให้ เฮ้าส์เคม ได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าจากบริษัทต่างชาติชั้นนำหลายบริษัท จนกลายเป็นพาร์ทเนอร์ ที่ร่วมส่งเสริมธุรกิจซึ่งกันและกัน
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการคิดค้นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าจริงๆ โดยใช้งบต่อปีมากถึง 30% จากรายได้ สำหรับการพัฒนานวัตกรรม ซึ่งประมาณไตรมาส 3 ปีนี้ เฮ้าส์เคมก็จะออกนวัตกรรมอาหารสัตว์เล็กในกลุ่ม สุนัข แมวพวกหมาแมว เป็นอาหารขัดฟันกึ่งของเล่น รวมไปถึงชีสเพาเดอร์ ที่จะช่วยเพิ่มคุ้มกันให้กับสัตว์เลี้ยง โดยตลาดนี้มีมูลค่าหลายพันล้านบาท และยังมีเติบโตต่อเนื่องเกือบ 30%
“ทัชชกร” ให้ความสำคัญกับการคิดค้นและผลิตสินค้าในนามของเฮ้าส์เคม เพื่อจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีการวางแผนที่จะส่งออกไปยังลูกค้าประเทศเพื่อนบ้าน และขยายตลาดไปยังประเทศในแถบเอเชีย ยุโรป และอเมริกาในอนาคต โดยเป้าหมายของเขาคือ ภายใน 5 ปีจะทำรายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่สามารถผลักดันยอดขายของบริษัทเติบโตต่อเนื่องประมาณ 10-15%
ผู้บริหารหนุ่มคนนี้ ยํ้าว่า การทำงานของเขา “มองที่ผลลัพธ์มากกว่าวิธีการ เรามองมุมใหม่ๆ ตลอด และหาช่องทางเสริมเติมความแข็งแกร่ง เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายหรือโอกาสใหม่ๆ เสมอ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 หน้า 24 ฉบับที่ 3,676 วันที่ 6 - 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2564