บล็อกเชนกับสิทธิผู้บริโภคในโลกโฆษณา

 

ทำให้เวลาที่เราเสียไปกับการดูโฆษณาเปลี่ยนเป็นรายได้กันดีกว่า

ในยุคดิจิทัลแบบปัจจุบันนี้ เราปฏิเสธไม่ได้ว่า Social Media ต่างๆ ที่คนในยุคปัจจุบันนิยมกันนั้นกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการ “โฆษณา” สินค้าและบริการต่างๆ ที่สามารถยิงตรงถึงผู้บริโภคได้อย่างตรงจุดสุด

 

ท่านผู้อ่านในนี้ต้องมีบ้างแหละ ที่บางครั้งกดเข้าเว็บไซต์นั่นนี่อยู่ดีๆ ก็มีหน้าต้างโฆษณา (ที่สุดแสนจะไม่ตรงกับความสนใจของคุณ) เด้งมาให้กดเสียดื้อๆ เว็บไซต์เหล่านี้ส่วนมากจะเป็นลิ้งค์ใน Click bait นั่นเอง  โดยมากแล้วผู้ให้บริการเว็บไซต์ต่างๆ โดยเฉพาะเว็บไซต์บทความงานเขียน หรือแม้แต่เว็บไซต์ที่เปิดให้ดาวน์โหลดพวกฟรีแวร์ต่างๆ ใช้สำหรับหารายได้เสริมจากผู้โฆษณานั่นเอง

 

รายได้ตรงส่วนนี้จะถูกจัดสรรค์ปันส่วนจาก เจ้าของสินค้าหรือผู้โฆษณา > บริษัทตัวกลางที่รับโฆษณา > กลุ่มเป้าหมาย

 

ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนมากเลยก็คือทางผู้ใช้อย่างเราๆ ทั่วไปมักมองข้าม (ไปจนถึงรำคาญ) โฆษณาที่เด้งขึ้นมาขัดจังหวะเหล่านี้บางคนแค่เห็นขึ้นมาก็กดปิดภายใน 2 วิเสียด้วยซ้ำ  และหากจะมองในแง่ของ “ผู้โฆษณาเอง” สิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นปัญหาสุดๆ คือการที่ไม่สามารถตามเช็คได้จริงๆ ว่า  กลุ่มเป้าหมายที่เข้าถึงโฆษณานั้นแท้จริงแล้วเป็นผู้ใช้จริงๆ หรือไม่? มีการรับรู้ข่าวสารเพียงใดกับชุดโฆษณานั้นๆ ที่ยิงไป?  สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อค่าใช้จ่ายของผู้เป็นธรรมทั้งสิ้น

 

เริ่มมีแนวคิดในการนำเทคโนโลยีบล็อคเชนมาช่วยแก้ปัญหา

 

สำหรับคนที่คลุกคลีกับวงการดิจิทัลหรือการเงินบ่อยๆ อาจเคยได้ยินข่าวคราว Features ต่างๆ ของเทคโนโลยีบล็อคเชนกันมาบ้าง ด้วยจุดเด่นของระบบนี้ การสร้างชุดข้อมูลที่สามารถจัดเก็บข้อมูลและตรวจสอบย้อนหลังได้อย่างโปร่งใส ที่ผ่านมาจึงมีการนำระบบในส่วนนี้ประยุกต์เข้ากับภาคธุรกิจหลายๆ อย่าง อาทิ การใช้สำหรับจัดเก็บข้อมูลในสายการผลิตหรือ Supply Chain, การจัดเก็บข้อมูลแสดงกรรมสิทธิ์ที่สำคัญ เช่น พวกที่ดิน, อสังหาริมทรัพย์, หรือแม้กระทั่งใช้เป็น “แพลทฟอร์มตัวกลาง” ในการลงทะเบียนเข้าถึงฐานข้อมูลที่สำคัญหรือเป็นส่วนตัวต่างๆ เพื่อความปลอดภัยมากขึ้น

 

สำหรับในปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีตัวนี้เข้ามาประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมโฆษณาออนไลน์นี้แล้วเช่นกัน  โดยเฉพาะผู้ให้บริการเว็บ Browser ต่างๆ  ที่มาแนวคิดที่ต้องการสร้างประสบการณ์ความเป็นส่วนตัวให้กับทางผู้ใช้งาน (ที่รำคาญโฆษณา)  แต่ยังเล็งเห็นถึงความแฟร์กับทางผู้ว่าจ้างโฆษณาที่ย่อมต้องการให้โฆษณาของตัวเองนั้นถูกเผยแพร่ตรงกลุ่มเป้าหมาย
 

ยกตัวอย่างเช่น Web Browser ที่คนในคอมมูนิตี้เงินดิจิทัลต่างๆ ล้วนคุ้นเคยกันดี “Brave Browser” ที่มาพร้อมกับโทเค็นดิจิทัล BAT นั่นเอง โดยโทเค็นนี้จะทำหน้าที่เป็นค่าธรรมเนียม, เหรียญรางวัลหรือเชื้อเพลิงในระบบ

 

ในแง่ของผู้ใช้บริการจึงถือกำเนิดแนวคิดขึ้นมาว่า “ถ้าเรามีการแบ่งผลประโยชน์ให้กับผู้ใช้งาน สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือความเต็มใจในการรับข้อมูลข่าวสาร”  ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการโฆษณานั้นสูงขึ้น และตรงจุดมากขึ้นเนื่องจากผู้ใช้บริการยินดีรับรู้คอนเท้นท์อย่างเต็มใจ  นอกจากนี้ยังถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้ระหว่างการท่องเว็บอีกด้วย

 

ในแง่ของเจ้าของผลิตภัณฑ์  ด้วยการตัดตัวกลางให้เหลือเพียงผู้ให้บริการ Browser ซึ่งแน่นอนสิ่งนี้ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายของเจ้าของผลิตภัณฑ์นั้นลดลงไปอย่างมาก  และนอกจากจะเลือกกลุ่มเป้าหมายได้แล้วนั้น คุณยังมั่นใจได้ว่าคนที่เข้าถึงและรับรู้โฆษณาของคุณนั้นเข้าถึงคอนเท้นของคุณจริงๆ

 

ในแง่ของผู้ให้บริการเว็บไซต์  ได้รับส่วนแบ่งค่าโฆษณาจากทางผู้โฆษณาแบบคุ้มค่าและยุติธรรมแล้ว  หากทางเว็บไซต์มีการ Verify User กับทาง Brave เรียบร้อยแล้ว  ถ้ามีการเขียนหรือทำคอนเท้นอะไรดีๆ ออกมาและผู้อ่านเกิดชอบ  ยังสามารถเปิดรับเหรียญ BAT จากการ Donate สู่วอลเล็ตของตนเองได้โดยตรงอีกด้วย

 

 

สำหรับใครที่อยากทดลอง Web Browser ที่ดูแลความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ได้ค่อนข้างดีป้องกันผู้ใช้งานจากโฆษณาที่ไม่ต้องการ และให้ผลลัพธ์ที่ยุติธรรมกับผู้ให้โฆษณาและเจ้าของผลิตภัณฑ์ ทาง Browser นี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน

 

 

ทางผู้อ่านอาจมีคำถามในใจขึ้นมาว่า “แล้วแบบนี้ถ้าได้เหรียญดิจิทัลตัวนี้มาแล้วจะเอาไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทยังไงดี?”  ไม่ต้องกังวลไป เนื่องจากในปัจจุบันประเทศไทยเองก็มีเว็บไซต์สำหรับซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ปลอดภัยและได้รับใบอนุญาติอย่างถูกต้องจากหน่วยงานภาครัฐ (กลต.) แล้วถึง 2-3 เจ้าด้วยกัน  โดยเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมที่สุดในไทย ณ ขณะนี้คือเว็บไซต์ Bitkub.com สิ่งที่น่าสนใจคือทางเว็บไซต์นี้มีเหรียญ BAT สำหรับซื้อขายด้วยคู่เงินบาทด้วยเช่นกัน  เรียกได้ว่าหมดกังวลสำหรับมือใหม่เลยทีเดียว

 

 

ขอบคุณข้อมูลที่มา : Bitkub.com