สายการบิน Sriwijaya Air เครื่องบินโบอิ้ง 737-500 เที่ยวบิน SJ182 ประสบอุบัติเหตุตก หลังจากบินขึ้นจากสนามบิน จาการ์ตา เครื่องบินโดยสารซึ่งมีผู้โดยสารกว่า 50 คน หายไป หลังจากบินขึ้นจากกรุงจาการ์ตาได้ไม่นาน
เครื่องบินโบอิ้ง 737 ของสายการบินศรีวิชัยแอร์ (Sriwijaya Air) ขาดการติดต่อขณะมุ่งหน้าไปยังเมืองปอนติอานัก ในจังหวัดกาลิมันตันตะวันตก
เว็บไซต์ติดตามเส้นทางการบิน http://Flightradar24.com ระบุว่า เครื่องบินดิ่งลงราว 10,000 ฟุตภายในเวลาไม่ถึง 1 นาที ก่อนหายไปจากจอเรดาร์ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากเครื่องบินเทกออฟจากสนามบินแล้วประมาณ 4 นาที
กระทรวงคมนาคมอินโดนีเซียบอกว่ากำลังดำเนินปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลืออยู่
หน่วยงานความปลอดภัยทางคมนาคมของอินโดนีเซียและสายการบิน Sriwijaya Air ให้ข้อมูลว่า เครื่องบินลำดังกล่าวขาดการติดต่อเมื่อเวลา 14.40 น. วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น
ขณะบินที่ระดับความสูง 11,000 ฟุต และกำลังไต่ระดับไปที่ความสูง 13,000 ฟุต ห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติซูการ์โน-ฮัตตาไปทางเหนือราว 11 ไมล์ทะเล
ศรีวิจาย่า แอร์ ซึ่งเป็นสายการบินในประเทศ ระบุว่ากำลังรวบรวมข้อมูลว่าเกิดอะไรขึ้น
เครื่องบินโบอิ้ง 737 ไม่ใช่รุ่นเดียวกับเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ ซึ่งเป็นรุ่นที่เกิดเหตุเครื่องบินตก 2 ครั้งใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยครั้งแรกคือเมื่อ ต.ค. ปี 2018 ที่สายการบินไลอ้อนแอร์ตกลงทะเล ทำให้มีผู้เสียชีวิต 189 ราย
บูดี คาร์ยา สุมาดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมอินโดนีเซีย เผยว่า บนเครื่องบินลำดังกล่าวมีผู้โดยสาร 50 คน ประกอบด้วยผู้ใหญ่ 43 คน และเด็ก 7 คน และลูกเรืออีก 12 คน โดยเที่ยวบินดังกล่าวมีจุดหมายที่เมืองปอนตีอานัก
ล่าสุดปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยของหน่วยงาน Basamas ยังดำเนินอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งเผยในระหว่างแถลงข่าวว่า ทีมค้นหาภาคพื้นได้พบเศษซากที่อาจเป็นของเครื่องบินกระจายอยู่รอบๆ เกาะ Lancang ซึ่งตั้งอยู่ในแนวหมู่เกาะทางเหนือของจาการ์ตา
สำหรับเศษซากที่พบนั้นได้นำส่งต่อไปยังคณะกรรมการความปลอดภัยทางคมนาคมแห่งชาติของอินโดนีเซียเพื่อตรวจสอบแล้ว