บลูมเบิร์กชี้ โควิด-19 อาจเป็นโรคระบาดที่จะอยู่คู่โลกของเราต่อไปอีกถึง 7 ปี

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานวานนี้ (7 ก.พ.) ว่าจากการที่ โครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชน ได้เริ่มขึ้นแล้วในหลายประเทศทั่วโลก แต่การฉีดวัคซีนในหลายพื้นที่ยังเป็นไปอย่าล่าช้าไม่ทันการณ์และไม่มีการวางแผนที่ดีนัก ทำให้เมื่อพิจารณาจากอัตราความเร็วในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเป็นวงกว้างแล้ว มีความเป็นไปได้ว่า โรคระบาดโควิด-19 จะยังคงมีอยู่คู่กับโลกของเราไปอีกราว 7 ปี

 

นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าในช่วง 10 ปีนับจากนี้ โลกยังคงต้องรับมือกับโควิด-19 ด้วย การฉีดวัคซีนป้องกันโรค คนละ 2 โดส เพื่อก่อให้เกิดการสร้าง ภูมิคุ้มกันหมู่ (herd immunity) ซึ่งเป็นการที่ประชากรส่วนมากของชุมชนหรือสังคม มีภูมิคุ้มกันโรคเกิดขึ้นในสัดส่วนจำนวนคนที่มากเพียงพอที่จะทำให้ไม่เกิดการติดเชื้อจำนวนมากอีกต่อไป ถือเป็นการช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ซึ่ง “ภูมิคุ้มกันหมู่” ดังกล่าว อาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเมื่อหายจากโรค หรือเกิดจากการได้รับวัคซีนนั่นเอง

 

นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ที่ปรึกษาทำเนียบขาว เคยประมาณการณ์ว่า สหรัฐจำเป็นต้องฉีดวัคซีนให้ประชาชนราว 70-85%  ของประชากรทั้งหมดของประเทศเพื่อก่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ที่เพียงพอจะสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโควิด-19  

 

ทั้งนี้ อัตราการฉีดวัคซีนของสหรัฐในปัจจุบันชี้ให้เห็นว่า ถ้าหากสหรัฐยังรักษาระดับของการฉีดวัคซีนให้ประชาชนอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะสามารถถึงจุดหมายการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้มากเพียงพอภายในปีหน้า (2565)  แต่สำหรับประเทศอื่น ๆ ที่ยังคงประสบปัญหาในการขนส่งลำเลียงวัคซีน รวมถึงปัญหาการขาดแคลนงบประมาณทำให้ไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างเพียงพอ ระยะทางสู่จุดหมายดังกล่าวนับว่ายังอีกยาวไกล

 

จากข้อมูลของบลูมเบิร์กพบว่า ประเทศที่ร่ำรวยและประเทศในซีกโลกตะวันตกจำนวนมาก สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนในระดับมวลชนได้ราว ๆ 75% ของประชากรแล้ว แต่ประเทศยากจนและประเทศกำลังพัฒนา ยังคงตามหลังอย่างห่าง

บางประเทศ เช่น อิสราเอล ซึ่งเริ่มโครงการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้เร็ว คาดว่าจะฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนได้ราว 75% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แต่สำหรับโปรตุเกส อาจต้องบใช้เวลาอีก 4 ปีกว่าจะไปได้ถึงระดับนั้น ขณะที่จีน ซึ่งมีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก คาดว่าอาจต้องใช้เวลา 7 ปีจึงจะสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ส่วนแคนาดา ซึ่งเป็นประเทศที่จองซื้อวัคซีนได้เร็วที่สุดและมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก กลับกลายเป็นว่าอาจจะต้องใช้เวลาอีกเกือบ 10 ปี จึงจะสามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ครอบคลุม 75% ของประชากร ซึ่งที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะปัญหาความล่าช้าในการกระจายวัคซีน ดังนั้นหากประเทศต่าง ๆ ปรับปรุงการกระจายวัคซีนออกไปให้ทั่วถึงและรวดเร็วมากขึ้น ระยะเวลาที่คาดว่าจะต้องใช้ในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ก็จะกระชับสั้นลง

 

ในส่วนของการผลิตวัคซีนก็เพิ่งอยู่ในระยะเริ่มต้น นอกจากนี้ ในบรรดาประเทศต่าง ๆทั้งหมดทั่วโลก มีเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่มีโครงการฉีดวัคซีนฟรีให้ประชาชน รายงานของบลูมเบิร์กคาดหวังว่า การคำนวณและประมาณการณ์ในรายงานชิ้นนี้ตั้งอยู่บนข้อมูลพื้นฐานที่ว่า วัคซีนจะสามารถป้องกันโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อแต่ละคนได้รับการฉีดวัคซีน 2 เข็ม หรือ 2 โดส แต่หากในอนาคต มีบริษัทผู้ผลิตวัคซีนอย่างจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ที่กำลังคิดค้นวัคซีนต้านโควิดที่มีประสิทธิภาพด้วยการฉีดเพียงเข็มเดียว หรือโดสเดียว ออกมาอีก นั่นก็จะยิ่งช่วยให้โลกสามารถบรรลุเป้าหมายการสร้างภูมิคุมกันหมู่ในเวลาสั้นลง  

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิด 8 ขั้นตอนง่ายๆ ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19

นอร์เวย์ ดับ 29 ราย เหตุฉีดวัคซีนต้านโควิด-19

ชาวจีนเกือบ 1 ล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แล้ว

จีนเริ่มสร้างโรงงานผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ในยูนนาน พร้อมใช้งานกลางปีหน้า