“จีน”รุกหนักลงทุนเกษตร “ลาว” เฉพาะบอลิคำไซกว่า 4.6 หมื่นไร่
สปป.ลาวเผยต่างชาติสนใจลงทุนด้านเกษตรกรรมในแขวงบอลิคำไซมากขึ้น “จีน”หัวขบวนรุกลงทุนมากสุด ทั้งปลูกกล้วย-ทุเรียน-มะม่วง-ส้ม-มันสำปะหลัง-แปรรูปยาง รวมกว่า 4.6 หมื่นไร่
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลของสื่อลาวว่า ในปี 2563 ที่ผ่านมา มีนักลงทุนทั้งภายในและต่างประเทศเข้าไปลงทุนด้านเกษตรกรรมในแขวงบอลิคำไซของลาวทั้งหมด 16 บริษัท มีพื้นที่ที่ลงทุนทั้งหมด 3,705 เฮกตาร์ (23,156.25 ไร่) มีการปลูกกล้วย 6 บริษัท ใช้พื้นที่จำนวน 1,860 เฮกตาร์ (11,625 ไร่) ปลูกทุเรียน 1 บริษัท พื้นที่จำนวน 130 เฮกตาร์ (812.5 ไร่) ปลูกมะม่วง 3 บริษัท พื้นที่จำนวน 1,373 เฮกตาร์ (8,581.25 ไร่) ปลูกส้ม 3 บริษัท พื้นที่จำนวน 342 เฮกตาร์(2,137.5 ไร่) (รวมทุกพืชกว่า 46,313 ไร่) และส่งเสริมการปลูกและเก็บซื้อมันสำปะหลังจาก 3 โรงงาน ทั้งนี้ยังมีบริษัทที่รับซื้อทั่วไปจำนวน 44 บริษัท และโรงงานแปรรูปยางพารา 3 แห่ง
ทั้งนี้หัวหน้าแขนงปลูกฝัง แผนกกสิกรรมและป่าไม้ แขวงบอลิคำไซ ระบุว่า บริษัทที่เข้าไปลงทุนด้านเกษตรกรรมในแขวงบอลิคำไซมีทั้งบริษัทภายในประเทศ บริษัทภายในที่ร่วมทุนกับต่างประเทศ และบริษัทจากต่างประเทศ และส่วนใหญ่เป็นบริษัทจากประเทศจีน ซึ่งองค์การปกครองแขวงได้เน้นรูปแบบส่งเสริมการลงทุน 1+2+3 (ภาครัฐคือองค์การปกครองแขวงเป็นผู้คุ้มครอง ประชาชนสนองพื้นที่และแรงงาน บริษัทเอกชนให้ทุน ส่งเสริมทางเทคนิค และสนองตลาดจำหน่าย) โดยจะเน้นใน 4 เมืองที่อยู่ในแขวง อาทิ เมืองบริคัน เมืองปากซัน เมืองท่าพระบาท และเมืองปากกระดิง
หัวหน้าแขนงปลูกฝังกล่าวเพิ่มเติมว่า จากการลงพื้นที่ติดตามอย่างใกล้ชิดของแขนงปลูกฝังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของแขวงพบว่าปัจจุบันนักลงทุนได้ทำการจัดตั้งปฏิบัติตามกฎหมายและตามนิติกรรมที่เกี่ยวข้องของส่วนกลางและท้องถิ่นกำหนดได้ดี โดยเฉพาะการใช้สารเคมีในการเพาะปลูกนั้นสามารถทำได้และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ส่วนปัญหาที่พบนั้นยังมีไม่มากเพราะเป็นเพียงการสื่อสารกับนักวิชาการที่เกี่ยวข้องของบางบริษัทที่ลงทุนจากต่างประเทศเท่านั้น ส่วนตลาดจำหน่ายผลผลิตนั้นยังไม่พบปัญหาเพราะส่วนมากจะเป็นการส่งออกต่างประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
จีนขอสัมปทานที่ดินลาว 3 หมื่นไร่ ปลูกทุเรียนอนาคตสะเทือนไทย
จีนผงาดเบอร์1 ค้า-ลงทุนในลาว แนะ 3 ทางรอดทัพธุรกิจไทย