WHO เตือนยุโรปจ่อเผชิญโควิดระบาดระลอกใหม่ หลังผู้คนเดินทางมากขึ้น

02 ก.ค. 2564 | 05:30 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ก.ค. 2564 | 12:34 น.

จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในยุโรปพุ่งขึ้นอีกครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากลดลงมาตลอดช่วง 10 สัปดาห์ก่อนหน้า ปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้ WHO ต้องออกมาเตือนว่า เป็นไปได้ที่จะเกิด "การระบาดระลอกใหม่" ของโควิดในยุโรป หากผู้คนไม่ทำตามมาตรการควบคุมอย่างเคร่งครัด

นายฮันส์ คลูจ ผู้อำนวยการ องค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำภูมิภาคยุโรป แถลงวานนี้ (1 ก.ค.) ว่า ยุโรป กำลังใกล้จะเผชิญ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ และไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ตรวจพบครั้งแรกในอินเดียและแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว จะเป็นสายพันธุ์หลักที่ตรวจพบในยุโรปภายในช่วงเดือนส.ค.นี้

WHO เตือนยุโรป "การ์ดอย่าตก"

“จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใน 53 ประเทศในยุโรปได้ลดลงเป็นเวลา 10 สัปดาห์ติดต่อกัน แต่ช่วงเวลาดังกล่าวได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 10% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากยุโรปมีการผ่อนคลายมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม และมีการเดินทางมากขึ้น” ผู้บริหาร WHO ภาคพื้นยุโรปกล่าว และเตือนว่า

ข้อเท็จจริงก็คือ ยังมีชาวยุโรปอีกหลายล้านคนยังคงไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แม้จะมีการแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา อย่างหนักหน่วงในระยะหลัง ๆนี้ ไวรัสโควิดสายพันธุ์ดังกล่าว แม้จะการตรวจพบครั้งแรกในประเทศอินเดีย แต่จากความสามารถในการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม ทำให้ปัจจุบัน ไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตากลายเป็นสายพันธุ์หลักที่มีการตรวจพบในผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๆในยุโรปหลายประเทศ ทั้งยังพบมากกว่าโควิดสายพันธุ์ท้องถิ่นอย่าง “อัลฟา” ที่พบครั้งแรกในประเทศอังกฤษอีกด้วย

นายคลูจกล่าวว่า ระบบสาธารณสุขของยุโรปมีความเสี่ยงที่จะไม่สามารถรองรับผู้ป่วยใหม่ได้อีกต่อไป  ขณะเดียวกัน เขาคาดการณ์ว่าจะมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ระลอกใหม่ก่อนฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ โดย 3 ปัจจัยที่จะก่อให้เกิดความเสี่ยงดังกล่าว ได้แก่

  • การแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่
  • การฉีดวัคซีนที่ไม่เพียงพอแก่ประชาชน และ
  • การที่ประชาชนมีการพบปะสังสรรค์กันมากขึ้น

ยังติดพบปะสังสรรค์ ยิ่งต้องระวัง