ไทยติด 1 ใน 5 ประเทศ “เสี่ยงสูงสุด” ต่อการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตา
เจพี มอร์แกน จัดไทยเป็น 1 ใน 5 ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ (emerging economies) ที่มีความเสี่ยงสูงสุด หรือเปราะบางที่สุด ต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา "อัตราการฉีดวัคซีน" ป้องกันโควิดให้ประชาชนจะเป็นตัวแปรสำคัญบ่งชี้ว่าจะกลับสู่ภาวะปกติได้เร็วช้าเพียงใด
เจพี มอร์แกน วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ออกบทวิเคราะห์เผยแพร่วันนี้ (9 ก.ค.) ระบุว่า ไทยเป็น 1 ใน 5 ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่ “มีความเสี่ยงมากที่สุด” หรือมีความเปราะบางมากที่สุดต่อการแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา โดยนอกจากไทยแล้วยัง มีอีก 4 ประเทศได้แก่
- ฟิลิปปินส์
- เปรู
- โคลอมเบีย
- แอฟริกาใต้
รายงานระบุว่า บางประเทศในกลุ่มดังกล่าวมีอัตราการฉีดวัคซีนในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอัตราการแพร่ระบาดของไวรัสอย่างรวดเร็ว ขณะที่รัฐบาลถูกกดดันให้ขยายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อจำกัดการเดินทางและการออกจากบ้านของประชาชนหลังจากที่ระบบสาธารณสุขเริ่มตึงตัวและมีอัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น
นักวิเคราะห์ระบุว่า อัตราการฉีดวัคซีนของแต่ละประเทศจะเป็นตัวแปรกำหนดว่าการเดินทางไปไหนมาไหนของประชาชนจะกลับมาสู่ภาวะปกติได้เร็วหรือช้าเพียงใด
"ผลการประเมินพบว่า ฟิลิปปินส์ เปรู โคลอมเบีย แอฟริกาใต้ และไทย ต้องใช้เวลามากที่สุดกว่าที่การเดินทางของประชาชนจะกลับไปสู่ระดับปกติก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่สิงคโปร์ ตุรกี อินเดีย และบราซิลจะใช้เวลาน้อยที่สุด" รายงานระบุ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างอิงบทวิเคราะห์ของเจพี มอร์แกน ที่ระบุว่า ภูมิภาคลาตินอเมริกามีแนวโน้มน้อยที่จะจำกัดการเดินทางของประชาชน แต่เจพีมอร์แกนเตือนว่ากลุ่มประเทศดังกล่าวมีความเสี่ยงในช่วงขาลงต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่ความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากระบบสาธารณสุขที่ย่ำแย่ลง