“อาคม” ร่วมลงนามรัฐมนตรีโยธาธิการและขนส่ง ลาว ลุยสร้างก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 มูลค่า 3.9 พันล้าน เผยใช้เวลา 36 เดือน หนุนกระตุ้นการค้า ลงทุน ท่องเที่ยว ไทยกับประเทศเพื่อนบ้านถึงจีนตอนใต้
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ นายบุนจัน สินทะวง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เป็นประธานพิธีลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับรัฐบาล สปป.ลาว ว่าด้วยการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา ณ ศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ กล่าวว่า นับจากนี้ไปอีกประมาณ 3 ปี ไทยจะมีเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงกับแขวงบอลิคำไซ และเมืองใกล้เคียงของ สปป.ลาว ซึ่งจะช่วยพัฒนาสภาพเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดบึงกาฬ เพราะสะพานมิตรภาพฯ แห่งนี้ นอกจากจะเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างไทยกับ สปป.ลาว ที่มีอย่างยาวนาน ยังส่งผลต่อการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจบริเวณด่านชายแดนฝั่งจังหวัดบึงกาฬ และชายแดนฝั่งแขวงบอลิคำไซให้เป็นประตูการค้าที่สำคัญในการส่งเสริมการค้า การลงทุนระหว่างสองประเทศให้มากขึ้น
ทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว อำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าจากไทยไปสู่ตลาดจีนตอนใต้ และเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าจากภาคกลางของ สปป.ลาว สู่ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังของไทย เพื่อขนส่งทางทะเลต่อไปยังภูมิภาคอื่น ๆ รวมถึงพัฒนาโครงข่ายทางหลวงเชื่อมโยงไทย - ลาว กับประเทศเพื่อนบ้าน ภายใต้กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง หรือ GMS สนับสนุนยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี - เจ้าพระยา – แม่โขง หรือกรอบ ACMECS ระหว่างประเทศไทย ลาว กัมพูชา สหภาพเมียนมา และเวียดนาม นอกจากนี้ ในอนาคตทั้งสองประเทศ จะร่วมกันวางแผนพัฒนาโครงข่ายคมนาคมในระบบอื่น ๆ ต่อไป
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2562 อนุมัติให้กรมทางหลวง กระทรวงฯ ดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพฯ ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี วงเงิน 2,630 ล้าน ประกอบด้วย ค่าก่อสร้าง 2,553 ล้านบาท และค่าควบคุมงาน 77 ล้านบาท ส่วน สปป.ลาว จะใช้เงินกู้จากสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) จำนวน 1,300 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้าง 1,256 ล้านบาท และค่าควบคุมงาน 44 ล้านบาท รวมค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างโครงการฯ ทั้งสิ้น 3,930 ล้านบาท
สำหรับโครงการดังกล่าวใช้ระยะเวลาดำเนินการก่อสร้างประมาณ 36 เดือน มีจุดเริ่มต้น ที่ กม.0+000.000 บริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 222 (กม.123+430) อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ประเทศไทย สิ้นสุดโครงการ ที่ กม.16+340.580 (จุดตัดถนนสาย 13) เมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว แบ่งงานก่อสร้างเป็น 5 ส่วน ได้แก่
1. งานก่อสร้างถนนฝั่งไทยขนาด 4 ช่องจราจร ตามมาตรฐานอาเซียน ระยะทาง 12.13 กิโลเมตร
2. งานก่อสร้างถนนฝั่ง สปป.ลาว ระยะทาง 2.86 กิโลเมตร
3. งานก่อสร้างอาคารด่านพรมแดนทั้งสองฝั่ง
4. งานก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง เป็นแบบสะพานคานขึงคอนกรีตอัดแรงรูปกล่อง (Extradosed Prestress Concrete Bridge) ขนาด 2 ช่องจราจร มีไหล่ทางและทางเท้า ความยาวช่วงข้ามแม่น้ำโขง 810 เมตร และทางลาดขึ้นลงสะพานทั้งสองฝั่งรวมความยาวสะพานทั้งหมด 1,350 เมตร และ
5. งานก่อสร้างโครงสร้างเชื่อมต่ออื่น ๆ โดยมีด่านควบคุม (Border Control Facilities, BCF)
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามความตกลงของทั้งสองประเทศว่า เมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะช่วยกระตุ้นการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และท่องเที่ยวระหว่างไทยกับลาว รวมถึงทำให้การขนส่งสินค้าจากไทยไปสู่ตลาดจีนตอนใต้คล่องตัวขึ้น โดยเฉพาะ “ยางพารา” ที่เป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดบึงกาฬ ที่เปิดเส้นทางท่องเที่ยว 3 ประเทศ ใน 1 วัน “ไทย-ลาว-เวียดนาม” หลังการคมนาคมเชื่อมโยงถึงกันได้อีกด้วย