ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 8.30 น. วันที่ 23 กรกฎาคม 2562 ชาวบ้านตำบลโยธะกา จ.ฉะเชิงเทรา จำนวน 150 คน เดินทางเข้ากรุงเทพมหานครรวมตัวบริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนไปยังสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.)เพื่อยื่นหนังสือคัดค้าน ผังเมืองอีอีซี ต่อ สกพอ. เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของตนเอง
ทั้งนี้นายกัญจน์ ทัตติยกุล แกนนำเครือข่ายเพื่อนตะวันออก วาระเปลี่ยนตะวันออก เปิดเผยภายหลังยื่นหนังสือคัดค้านสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ว่าตามที่ได้มีหนังสือเรื่องขอส่งคำร้องของผู้มีส่วนได้เสียกับแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตอีอีซีฉบับวันที่ 8กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา และทางอีอีซีได้มีหนังสือตอบกลับไปยังเครือข่ายฉบับลงวันที่ 19 กค.62นั้น ทางเครือข่ายเห็นว่าการดำนินการของรัฐไแกระทบสิทธิของชุมชนที่ได้รับิยู่เดิมที่เกี่ยวกับผัวเมืองต้องมีเหตุผลอันสมควรและต้องมีการรับฟังความเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วนรอบด้าน เป็นธรรม จึงขอคัดค้านประเด็นการชี้แจงของสกพอ. พร้อมยืนยันว่าการดำเนินการที่ผ่านมายังไม่เป็นไปตามหลักวิชาการผังเมือง ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ทางเครือข่ายจึงขอข้อมูลเกี่ยวกับการรับฟังความเห็นดังกล่าวดังนี้คือ รายละเอียดจากการประชาสัมพันธ์ หนังสือเชิญ รายชื่อ ภูมิลำเนา ผู้เข้าร่วมประชุม สำเนาบันทึกการประชุมและรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุมทุกครั้ง บันทึกอนุกรรมการประชุมแผนผังทุกครั้ง รายงานฉบับล่าสุดของโครงการวางผังพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจกลุ่มจังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา
รายละเอียดร่างแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน แผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคทั้ง 8 ระบบ ข้อมูลการสำรวจพื้นที่และกำหนดเขตผัง รวมถึงวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆสำหรับการมาจัดทำผังและข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน และรายการประเมินผลการเปลี่ยนแปลงสภาพการณ์และสิ่งแวดล้อมการบังคับใช้ผังเมืองรวม
“ช่วงบ่ายวันนี้จะเดินทางไปยื่นหนังสือที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาลต่อไปเพื่อต้องการนำเสนอให้นายกรัฐมนตรีให้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรขึ้นมาดูเรื่องนี้ให้ละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นมีส.ส.ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลให้ความสนใจเรื่องนี้หลายคน พร้อมกับจะชำแหละเรื่องรถไฟความเร็วสูงควบคู่กันไปด้วย คาดว่าจะเข้าไปช่วยสื่อสารในสภาผู้แทนราษฎรได้เป็นอย่างดี เบื้องต้นพบว่าผังพื้นที่สีม่วงจะมีปัญหาไม่ได้นำไปพัฒนาเนื่องจากราคาที่ดินแพงมาก จึงมีความพยายามนำพื้นที่สีเขียวที่ต่อมามีความพยายามปรับเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่สีม่วงจะนำไปพัฒนาแทน ดังนั้นพื้นที่ที่จะพัฒนาได้จริงกลับไม่นำไปพัฒนา พื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่ชนบทที่ชาวบ้านอยู่อาศัยกันมานานไปทำประโยชน์แทน หากอีอีซียังปล่อยให้เป็นไปแบบนี้ ไม่ยึดตามเกณฑ์ผังเมืองจริงจะส่งผลกระทบตามมาแน่ๆสภาพเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปไม่รู้จักจบสิ้น เพราะว่าหากซื้อที่ดินราคา 8 แสนบาทไปพัฒนาอุตสาหกรรมได้คงไม่มีใครไปซื้อที่ดินราคา 4-5 ล้านบาทไปพัฒนา ดังนั้นหากรัฐยึดตามผังเมืองอย่างเคร่งครัดก็คงไม่ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านเช่นทุกวันนี้”
สำหรับชาวบ้านที่เดือดร้อนจากการปรับปรุงผังเมืองอีอีซีในครั้งนี้มีชาวบ้านจากกลุ่มโยธะการักษ์ถิ่น ตำบลโยธะกา อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะชิงเทรา กลุ่มเครือข่ายรักพระแม่ธรณี ต.เขาดิน อ.บางปะกง ต.หนองตีนนก อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา อ.พานทอง จ.ชลบุรี กลุ่มเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา กลุ่มชาวบ้านต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา กลุ่มอนุรักษ์อ่าวบางละมุง กลุ่มประมงพื้น
บ้านแหลมฉบัง อ่าวนาเกลือ และอ่าวอุดม อ.บางละมุง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และกลุ่มชาวบ้าน อ.แกลง อ.เขาชะเมา จ.ระยอง ราว 150 คนร่วมเรียกร้องในครั้งนี้