กนอ.จ้าง “สถาบันปิโตรเลียม” ศึกษาพื้นที่ถมทะเล 3 พันไร่รับการลงทุนเอ็กซอน โมบิล

19 ส.ค. 2562 | 12:05 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ส.ค. 2562 | 10:04 น.

รมว.อุตสาหกรรมเผย กนอ. ว่าจ้างสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยศึกษาพื้นที่ถมทะเล 3 พันไร่ท่าเรือแหลมฉบัง  ชี้หากเป็นประโยชน์ต่อประเทศ  และเศรษฐกิจก็น่าจะต้องเดินหน้า  แต่หากไม่คุ้มค่าการลงทุนก็ต้องถอย

กนอ.จ้าง “สถาบันปิโตรเลียม” ศึกษาพื้นที่ถมทะเล 3 พันไร่รับการลงทุนเอ็กซอน โมบิล

นายสุริยะ  จึงรุ่งเรืองกิจ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงประเด็นความคืบหน้าของการขอพื้นที่เพื่อรองรับการลงทุนของกลุ่มเอ็กซอน โมบิล คอร์ปอเรชั่น โครงการปิโตรเคมีส่วนขยายในพื้นที่บริเวณท่าเรือแหลมฉบัง  ประมาณ 1 แสนไร่  มูลค่า 3.3 แสนล้านบาทนั้น  ขณะนี้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้มีการดำเนินการว่าจ้างสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย  ปิโตรเลียม  ซึ่งมีความชำนาญทางด้านดังกล่าว  ให้ศึกษาถึงความเป็นไปได้ของโครงการ  ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเทคโนโลยี  สิ่งแวดล้อม  และผลตอบแทนว่าจะคุ้มทุนหรือไม่  หากผลการศึกษาออกมาเป็นไปในทิศทางที่ดี  ทำแล้วมีประโยชน์ต่อประเทศชาติ  และเศรษฐกิจจึงค่อยเดินหน้าต่อ

“กระแสเรื่องการต่อต้านการถมทะเล  ในความคิดเห็นส่วนตัวมองว่าเหรียญย่อมมี 2 ด้านเสมอ  หากผลการศีกษาออกมาว่าการดำเนินการทุกอย่างทำเพื่อประเทศชาติ  และทำให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อไปได้  มีความคุ้มค่ากับการลงทุนก็น่าจะต้องเดินหน้าต่อ  แต่หากผลการศึกษาระบุว่ามีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากเกินไป  ไม่คุ้มทุน  ไม่เกิดประโยชน์ก็ยกเลิก  โดยทุกอย่างต้องขอรอผลการศึกษา  ซึ่งทุกอย่างเราทำตามกฎหมาย”

สำหรับการถมทะเลนั้น  ประเทศไทยเองก็เคยทำมาก่อน  เช่นเดียวกับประเทศสิงคโปร์  และฮ่องกง  โดยมองว่าเทคโนโลยีเองก็ก้าวหน้าไปมากในยุคปัจจุบัน  ซึ่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมคงจะมีแน่นอน  แต่ประเด็นก็คือจะมีการควบคุมอย่างไรให้กระทบน้อยที่สุด  แต่สิ่งที่จะตามมาก็คือผลต่อเศรษฐกิจจากการจ้งงาน  ยกตัวอย่างเช่น การลงทุนสร้างโรงงาน 3 แสนล้านบาท  จะต้องมีการใช้หิน  ปูน  ทราย  และอุปกรณ์ต่างๆ  อีกท้งยังทำให้เกิดการจ้างงานกว่า 1 หมื่นราย  เพราะฉะนั้น  จะต้องมีการพิจารณาในภาพรวม  เพื่อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศ

“เงื่อนไขต่างๆ ในการถมทะเล  ทางเอ็กซอนฯเองก็ต้องจ่าย  เพาะเราไม่ได้ถมให้ฟรี  และไม่ใช่เฉพาะแค่เอ็กซอนฯเท่านั้น  หากบริษัทอื่นที่จะเข้ามาลงทุนเราก็เปิดกว้าง  โดยเอ็กซอนฯต้องการพื้นที่ 1.5 พันไร่  เรามองว่าน่าจะถมให้ได้พื้นที่ 3 พันไร่  เพื่ออุตสาหกรรมประเภทอื่นที่ใช้เทคโนโลยีสูง  ถ้าถมแล้วเป็นประโยชน์กับเศรษฐกิจก็น่าจะต้องดำเนินการ  โดยทุกประเทศต่างก็ต้องการให้นักลงทุนเข้ามาลงทุน  โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่  ซึ่งรับบบาลก็จะต้องพิจารณาดูว่าสิ่งที่บรัทเหล่านั้นนำเสนอมามีความเหมาะสมอย่างไร  หรือมีกฎหมายรองรับหรือไม่  โดยพื้นที่ที่เอ็กซอนฯต้องการขยาย  ก็เพราะเป็นการทำอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากโรงกลั่น  หากไม่สร้างใกล้กันก็จะไม่เกิดประโยชน์”

กนอ.จ้าง “สถาบันปิโตรเลียม” ศึกษาพื้นที่ถมทะเล 3 พันไร่รับการลงทุนเอ็กซอน โมบิล

นางสาวสมจิณณ์   พิลึก  ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า การถมทะเลมีหลายรูปแบบ ได้แก่ 1.กนอ.ดำเนินการเอง  ,2.ลงทุนร่วมกับเอกชน  และ3.เอกชนดำเนินการ  โดยจะต้องดูว่ารูปแบบไหนที่เป็นประโยชน์ต่อรัฐที่สุด  ซึ่งเดิมทีประเทศมีการถมทะลในการดำเนินโครงการท่าเรือมาบตาพุดเฟส 1 และ 2 ที่ กนอ. เป็นผู้ดำเนินการถมทะเล  เพราะตามกฎหมายระบุว่าผู้ที่จะดำเนินการได้จะต้องเป็นรัฐบบาลเท่านั้น