ดร.บัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) พร้อมคณะนำผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจต้องการติดตั้งโซลาร์เซลล์ ลงพื้นที่ศึกษาดูงานเรียนรู้พลังงานสะอาดในพื้นที่ เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ถือเป็นต้นแบบของภาคใต้ที่ใช้โซลาร์เซลล์ในรูปแบบของธุรกิจที่เห็นได้ชัดเจน จึงกลายเป็นที่มาของ อันดามัน Go Green สำหรับการมาศึกษาดูงานในครั้งนี้ ได้เลือกพื้นที่เรียนรู้ 4 จุดได้แก่ 1. ร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่อย่างลันตา มาร์ท ,2.อาทยา รีสอร์ท กับ ระบบโซลาร์เซลล์ภายในรีสอร์ท ,3.ลานตา ลันตา กับวิถีชีวิตพื้นบ้านของชาวสังกะอู้ และ4.คาซ่าบลังก้า รีสอร์ท กับระบบโซลาร์เซลล์และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ได้แก่ 1.เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนพลังงานสะอาดและการนำความรู้ในครั้งนี้ไปสื่อสารในวงกว้างให้เป็นรูปธรรมการนำโซลาร์เซลล์ไปใช้ในภาคธุรกิจเชิงพาณิชย์ และ2.เพื่อสร้างองค์ความรู้ให้กับผู้ที่เข้าร่วมทริปในครั้งนี้ นำมาปฏิบัติและประยุกต์ในธุรกิจหรือพื้นที่ของตัวเอง
สำหรับเกาะลันตานับว่าเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่จากปัญหาความไม่เสถียรของกระแสไฟฟ้า ทำให้ผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ และรีสอร์ทต่างๆ บนเกาะต่างหันมาติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าให้กับกิจการของตัวเองอย่างแพร่หลาย เริ่มจากไพบูลย์ เตชจารุวงศ์ อดีตวิศรกรคอมพิวเตอร์ เจ้าของร้านพาโนรามา ซึ่งเป็นผู้ติดตั้งโซลาร์เซลล์รายแรกปัจจุบันโซลาร์เซลล์ของพาโนรามามีกำลังผลิตประมาณ 1,300 วัตต์ ต่อใช้งานกับปั๊มชักกับพัดลมกระแสตรง และมีแบตเตอรี่เก็บไฟสำหรับส่งผ่านอินเวอร์เตอร์ขนาด 4,000 วัตต์ แปลงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับเพื่อป้อนเครื่องทำน้ำแข็ง 2 เครื่อง, เราเตอร์, เครื่องเสียง, ทีวี และตู้เย็น 1 เครื่องในช่วงกลางวัน
อย่างไรก็ดี ในปี 58 ร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่อย่างลันตา มาร์ท ที่ดำเนินการโดย ขวัญกนก กษิรวัฒน์ ได้ดำเนินการติดตั้งโซลาร์เซลล์จำนวน 160 แผง รวม 48 กิโลวัตต์ เพราะราคาที่ถูกลงมากและตอบโจทย์ในด้านของปัญหาไฟฟ้าตก ดับ กระชาก และยังรวมไปถึงการทำให้ร้านลันตามาร์ท สามารถลดค่าไฟฟ้าจากหนึ่งแสนสองหมื่นบาทต่อเดือน เหลือเพียงเจ็ดหมื่นบาทต่อเดือนเท่านั้น จากผลลัพธ์เชิงประจักษ์ ที่ทำให้เห็นถึงศักยภาพ และความคุ้มค่าในการลงทุน ทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมและรีสอร์ทในเกาะลันตา เริ่มทยอยติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ทำให้ปัจจุบันตัวเลขของการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บางแห่งเพิ่มอัตรากำลังการผลิตเพื่อรองรับการขยับขยายการใช้บริการลูกค้าของตนเอง เกาะลันตาจึงกลายเป็นเกาะแห่งแรกของประเทศไทยที่มีระบบไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่กลุ่มผู้ประกอบการการท่องเที่ยวใช้ทั่วไปบนเกาะซึ่งสามารถลดภาระให้กับระบบไฟฟ้าสายส่งของภาครัฐได้และได้กลายเป็นจุดขายให้กับการท่องเที่ยวของเกาะลันตา ด้านการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่กำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกในปัจจุบันนี้ด้วย
ในส่วนพื้นที่ที่ 2 อาทยา รีสอร์ท กับ ระบบโซลาร์เซลล์ภายในรีสอร์ท สำหรับ อาทยา รีสอร์ท โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ที่นี่จะนำระบบการจัดการพลังงานสะอาดมาใช้ภายในโรงแรม ที่ถูกนำมาจัดวาง ติดตั้ง และดีไซน์อย่างเหมาะสมสวยงาม ทำให้พลังงานสะอาดเป็นหนึ่งในจุดสนใจ และพื้นที่ที่ 3 ซึ่งคณะผู้เข้าร่วมศึกษาดูงานในครั้งนี้ จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตพื้นบ้านของชาวสังกะอู้กับเทศกาลลานตา ลันตา ตามรอยยาตรา วัฒนธรรม ประเพณี วิถีท้องถิ่นชาวสังกะอู้ และนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติเข้าร่วมงานกว่า 5,000 คน
พื้นที่ที่ 4 คาซ่าบลังก้า รีสอร์ท กับระบบโซลาร์เซลล์และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รีสอร์ทหรูระดับ 5 ดาว ที่มีระบบจัดการขยะและของเสียแบบ 100% ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่นระบบจัดการขยะแบบ Zero Waste และ ระบบการจัดการน้ำเสียที่ไม่ปล่อยลงสู่ธรรมชาติทันที เพราะต้องเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสียก่อน ที่สำคัญรีสอร์ทแห่งนี้ ยังนำพลังงานสะอาด ระบบโซลาร์เซลล์มาใช้เป็นส่วยใหญ่ อาทิ ระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคา ระบบเครื่องทำน้ำร้อนโซลาร์เซลล์ และ การใช้เครื่องกักเก็บไฟฟ้าที่ทำงานผสมผสานกับโซลาร์เซลล์มาใช้
“กิจกรรมในครั้งนี้ กลุ่มผู้ประกอบการ ผู้นำชุมชน และประชาชนที่มาจากหลากหลายพื้นที่ ที่เข้าร่วมโครงการศึกษาเรียนรู้ด้านพลังงานสะอาด ที่ทาง กกพ. จัดขึ้นร่วมกับภาคเอกชน เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ส่งเสริมการขับเคลื่อนและต่อยอดความรู้ให้แก่ทุกคนที่ร่วมศึกษาเรียนรู้ในทริปนี้ ที่จะได้เรียนรู้พลังงานสะอาดในพื้นที่ต้นแบบที่ถูกพัฒนาและต่อยอด ในด้านพลังงานสะอาดให้เกิดขึ้นอย่างมั่นคงและถาวรต่อไป”
อย่างไรก็ตาม กกพ.เตรียมเร่งจัดทำ Application เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารด้านพลังงานที่เป็นประโยชน์ กับผู้ที่สนใจ คาดว่าจะเปิดใช้งานได้ภายในปี 2563 โดยมองว่าการจัดกิจกรรมต่าง ๆ หรือการเร่งจัดทำ Application ในช่วงนี้นั้น จะเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาวะที่เกิดปัญหาหลายเรื่องรุมเร้า โดยเฉพาะเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ธุรกิจหยุดชะงัก การดำเนินการในสิ่งเหล่านี้จะเป็นการช่วยเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจสู่ระบบเศรษฐกิจพลังงานสะอาด