นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ธนาคารพาณิชย์ทั้งหมดได้มีการเตรียมการรองรับสถานการณ์เป็นอย่างดี โดยทำงานร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งแผนที่มีการเตรียมการในภาวะฉุกเฉินนั้น เรื่องของเงินสดต้องเรียนว่าธนาคารพาณิชย์ต่างๆมีความพร้อม และมีการจัดเตรียมให้มีอย่างพอเพียง เช่น ที่ตู้กดเงินอัตโนมัติ หรือตู้เอทีเอ็ม (ATM) เป็นต้น ขณะในส่วนของสาขาที่เปิดให้บริการนั้น ธนาคารเองก็มีการะประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าดูการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด19 ทั้งสาขาที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า และนอกห้างฯ
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีตู่เอทีเอ็มให้บริการอยู่ประมาณ 54,000 ตู้ทั่วประเทศ และมีสาขาของธนาคารที่เปิดให้บริการประมาณ 6.000 สาขา โดยจากเฝ้าดูการใช้เงินสด หรือบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ มีความมั่นใจว่าจะสามารถให้บริการกับประชาชนได้อย่างเพียงพอ ซึ่งปัจจุบันการใช้เงินสดจากตู้เอทีเอ็มก็ไม่ได้มีการเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด โดยช่องทางที่มีการใช้บริการมากขึ้นก็คือการใช้บัตรเดบิต ซึ่งทำให้ประชาชนไม่ต้องแตะ หรือจับเงินสด ขณะทั่วเครดิตก็ยังมีการใช้งานตามปกติ
อย่างไรก็ดี ที่ต้องการจะแนะนำให้ประชาชนใช้งานก็คือการใช้โมบายแบงก์กิ้ง หรือการทำธุรกรรมผ่านทางโทรศัพท์มือถือ หรือพร้อมเพย์ (PromptPay) โดยปัจจุบันมีการทำธุรกรรมจำนวนมากประมาณ 10 ล้านรายการต่อวัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าได้รับความนิยมอย่างสูง โดยการใช้จ่ายบนช่องทางดังกล่าวมีความสะดวกและไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่ว่าจะสั่งซื้อสินค้า หรืออาหารจากที่บ้านก็สามารถใช้ได้ และที่สำคัญยังมีความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของไวรัสด้วยช่องทางการหยิบจับเงินสดได้ด้วย
นอกจากนี้ ธนาคารพาณิชย์ก็มีการดูแลลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการ ซึ่งมีจำนวนหลายล้านราย โดยมีการให้ความช่วยเหลือ มีคอลเซ็นเตอร์ที่จะคอยให้บริการ ซึ่ง ณ ขณะนี้ได้มีการให้ความชื่อยเหลือด้านการผ่อนชำระเงินไปมากกว่า 3 หมื่นราย หรือคิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 3 แสนล้านบาท
“ประชาชนจะเห็นได้ว่าธนาคารพาณิชย์ดำเนินมาตรการออกมาเป็นระยะ ในเรื่องของการพักชำระเงินต้น โดยล่าสุดก็ได้มีการประชุมร่วมกับ ธปท. ซึ่งได้มีมาตรการที่หลากหลายของสินเชื่อบุคคล สินเชื่อเช่าซื้อ นอกจากนั้นในเรื่องสภาพคล่องก็มีเงินูกู้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2% หรือซอฟท์โลน โดยในกรณีที่มีหลักประกันไม่เพียงพอก็จะมีบรรษัทประกันสินเชื่อขนาดย่อม หรือ บสย. เข้ามาช่วยค้ำประกันเพิ่มอีก 6 หมื่นล้านบาท ดังนั้น จึงอยากให้ประชาชนมั่นใจว่าการให้บริการพาณิชย์จะไม่ติดขัดใดๆ”