นายวรานนท์ เกลื่อนสิน ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยวและกีฬา ประจำจังหวัดระนอง กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดระนองมีความพร้อมเต็มที่ 100% แล้วที่จะเปิดรับการท่องเที่ยวอีกครั้ง ในส่วนของจังหวัดระนอง ช่องทางหลังวิกฤติโควิดสิ่งที่จะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้นั่นคือ ต้องนำการกีฬามาใช้เพื่อขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยว เพราะเป็นเรื่องของสุขภาพ แม้จะมีการรวมกลุ่มจัดกิจกรรมแต่จะควบคุมได้ง่ายกว่า ขณะที่ผู้ชมก็เห็นว่าเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ ปลอดภัย ก็จะมั่นใจ จึงได้นำชมรมกีฬาโต้คลื่น เข้าพบนายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง รับนโยบายการจัดแข่งขันกีฬาโต้คลื่น ระหว่าง 16-18 ตุลาคม 2563 นี้ ที่เกาะพยาม อำเภอเมืองระนอง
“ช่วงการจัดแข่งขันนี้เข้าหน้ามรสุม เป็นช่วงโลว์ซีซันของการท่องเที่ยวเพราะทะเลคลื่นลมแรง แต่กลับพบว่าเป็นช่วงไฮซีซันของกีฬาโต้คลื่น ที่ต้องอาศัยคลื่นลมแรงกว่าปกติ ที่ผ่านมาไทยมีจุดเล่นกีฬาโต้คลื่น 2 แห่งคือ หาดกะตะ และหาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ส่วนของระนองที่เสนอตัวจัดปีนี้เชื่อว่าเหมาะที่จะพัฒนาเป็นจุดเล่นโต้คลื่นแห่งใหม่อีกจุด เพราะเป็นเกาะในทะเลอันดามัน หากสามารถทำได้จะช่วยแก้ปัญหาการท่องเที่ยวซบเซาช่วงหน้าฝน ทำให้ระนองเที่ยวได้ตลอดปี”
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวเชิงศรัทธาอันดับ 1 ของอุดรธานี คือ วังนาคินทร์ คำชะโนด ต้องจัดระเบียบการใหม่ภายใต้วิถีชีวิตปกติใหม่ (New Normal) นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ 13 มิ.ย.2563 นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าฯ พร้อมคณะ ร่วมประชุมฟังบรรยายสรุปจากนายอำเภอบ้านดุง ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารคำชะโนด ถึงขั้นตอนในการเข้าสักการะเจ้าปู่ศรีสุทโธและเจ้าย่าศรีปทุมมา ภายในเกาะคำชะโนด บ้านโนนเมือง ตำบลบ้านม่วง อำเภอบ้านดุง เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และร่วมกันทดสอบระบบ และขั้นตอนปฏิบัติต่างๆ ก่อนจะเปิดอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 20 มิ.ย. 2563 นี้ หลังจากปิดไปกว่า 3 เดือน
นักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญที่ประสงค์เข้าสักการะ มี 10 ขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติ คือ 1.ลงทะเบียนผ่าน application “คำชะโนด” www.co-news.ga/khamchanod/ticket.php หรือ สแกน QR Code 2.นำ QR Code แสดงตน ณ จุดคัดกรองหน้าประตู 3.คัดกรองวัดอุณหภูมิ แสดงบัตรประชาชนเพื่อรับบัตรเข้าสักการะ 4.สแกนบัตรเข้ายังจุดพักคอย รอรอบเข้าสักการะ และฟังคำแนะนำการปฏิบัติตนเมื่อเข้าสักการะ 5.ล้างมือเข้าสักการะเมื่อได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตามรอบที่กำหนด
6.ถอดรองเท้า รับพานบายศรี แสดงบัตรเข้าสักการะต่อเจ้าหน้าที่ เดินทางเข้าสักการะแบบเรียงแถว เว้นระยะห่าง งดสัมผัส ให้ใช้พนมมืออธิษฐานจิตขณะเดินไปตามสะพานพญานาค 7.สักการะ 3 จุด จุดละ 5 นาที และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ รวมถึงงดสัมผัสจุดสัมผัสร่วม โดยสามารถบันทึกภาพได้ 8.เดินกลับออกจากวังนาคินทร์คำชะโนดตามรอบของตนเอง 9.คืนบัตรและล้างมือ 10.เลือกซื้อสินค้าและลอตเตอรี่ภายในคำชะโนด ได้ตามความเหมาะสม แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัดจากเจ้าหน้าที่ฯ
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า เดิมมีคนมาคำชะโนดวันละ 5,000-10,000 คน ซึ่งจะทำอย่างเดิมไม่ได้แล้ว ต้องวางระบบใหม่ซึ่งทดลองแล้วมีความพร้อมน่าพอใจ และมีเวลาปรับให้พร้อมยิ่งขึ้นอีกระยะให้ทันวันเปิด เพื่อแก้ปัญหาที่มีตั้งแต่ก่อนเกิดโควิด เช่น การเดินเบียดเสียดกันขึ้นเกาะ ลูบเกล็ดพญานาค การกราบบนแท่นเดียวกันซ้ำๆ กัน ต้องเลิก คนที่เข้ามาจะต้องยืนไหว้เท่านั้น ซึ่งโจทย์เหล่านี้ทางคณะกรรมการบริหารคำชะโนดได้แก้ไขหมด ส่วนเรื่องบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่ใช้กระบวยเดียวกันตักน้ำยกขึ้นดื่ม จะยังไม่เปิดให้เข้าไปตัก ต่อไปจะพัฒนาให้เป็นระบบที่น้ำไหลออกจากองค์พญานาคเลย แล้วให้คนเอาภาชนะมาใส่กลับบ้าน
ทั้งนี้ การจัดเข้าสักการะจะแบ่งเป็นรอบ วันละ 34 รอบ เช้า 17 รอบ บ่าย 17 รอบ รอบละ 50 คน เพื่อให้ไม่เบียดเสียด และคนที่จะมามั่นใจว่าได้เข้าสักการะแน่ถ้าได้ลงทะเบียนไว้ตามระบบ เพื่อความปลอดภัยที่มั่นใจได้ 3
ด้านรีสอร์ตวังน้ำเขียวลงมือก่อน ไม่รอมาตรการกระตุ้นของรัฐแล้ว นายพงษ์เทพ มาลาชาสิงห์ ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภอวังน้ำเขียว เปิดเผยว่า วังน้ำเขียวเปรียบเหมือนสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย ที่เติบโตมาตลอด แต่พอเจอโควิด-19 ก็ชะงักหมด ตอนนี้เริ่มกลับมาเปิดใหม่ ชมรมฯหารือกันแล้วว่า ถ้าจะให้นักท่องเที่ยวมาพักผ่อนแล้วคุ้มค่า พร้อมกับได้ช่วยเหลือเกษตรกรในชุมชน ผลการหารือเบื้องต้นเห็นตรงกันว่า จะจัดโครงการมอบคูปองเงินสด 100-200 บาท แก่ผู้เข้าพัก เพื่อใช้นำไปซื้อสินค้าของชุมชน เป็นการกระจายรายได้ ให้เงินสะพัดลงสู่เศรษฐกิจในพื้นที่ ผู้มาพักรู้สึกถึงการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม คาดว่าโครงการนี้จะทำให้การท่องเที่ยววังน้ำเขียวและโดยรอบมีความคึกคักอย่างมาก
เนื่องจากการกลับมาเปิดใหม่ ต้องปฎิบัติให้สอดคล้องกับหลักการทางด้านสาธารณสุข และการเตรียมพนักงานให้พร้อม ซึ่งต้องซักซ้อมกันอยู่ คาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้จะมีผู้ประกอบการบริการที่พักในวังน้ำเขียว เปิดให้บริการแล้วไม่น้อยกว่า 60% และถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม คาดจะเปิดกันทั้ง 100 % จากนั้นจะได้ทำโครงการ “เพื่อนช่วยเพื่อนคนวังไม่ทิ้งกัน” เพื่อคืนกำไรผู้เข้าพัก และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนให้คึกคักขึ้น และกระตุ้นการท่องเที่ยววังน้ำเขียวให้กลับมาเหมือนเดิม แม้จะเป็นช่วงหน้าฝนแต่วังน้ำเขียวก็เที่ยวได้ โดบทางชมรมฯจะมีการจัดเส้นทางท่องเที่ยวหน้าฝนขึ้นด้วย เช่น กิจกรรมดูกระทิงที่ทับลาน ชมตะวันตกดินที่ผาเก็บตะวัน เที่ยวสวนทุเรียนพันธ์ุยักษ์ เป็นต้น ทั้งนี้ ก่อนเดินทางขอให้โทรศัพท์เช็กสถานที่พักในวังน้ำเขียวก่อนเพื่อไม่เสียเที่ยว
หน้า 17 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,584 วันที่ 18 - 20 มิถุนายน พ.ศ. 256