รายงานข่าวระบุว่า ที่กระทรวงพลังงานมีการประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน เพื่อพิจารณาอนุมัติโครงการที่ขอรับการสนับสนุนเงินจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจำปีงบประมาณ 2563 และได้มีมติอนุมัติโครงการ จำนวน 1,035 โครงการ วงเงินที่ให้การสนับสนุน 2,066,735,701.86 บาท โดยแบ่งเป็น 2 แผนงาน ดังนี้
แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน อนุมัติทั้งหมด 16 โครงการ กรอบวงเงินสนับสนุน 535,799,514.02 บาท ประกอบด้วย 1. กลุ่มงานตามกฎหมาย จำนวน 4 โครงการ ,2.กลุ่มงานศึกษา ค้นคว้าวิจัย เพื่อการพัฒนาและส่งเสริม จำนวน 1 โครงการ ,3.กลุ่มงานสื่อสาร และข้อมูล ข่าวสาร จำนวน 5 โครงการ ,4.กลุ่มงานพัฒนาบุคลากร จำนวน 2 โครงการ และ 5. กลุ่มงานสนับสนุนลดต้นทุน ยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งแบ่งเป็นโครงการพลังงานเพื่อเศรษฐกิจฐานราก นโยบายพลังงานเพื่อทุกคน (Energy for all) จำนวน 2 โครงการ ซึ่งสนับสนุนในรูปแบบเงินก้อน (Block grant) และโครงการทั่วไป จำนวน 2 โครงการ
แผนพลังงานทดแทน อนุมัติทั้งหมด จำนวน 1,019 โครงการ กรอบวงเงินสนับสนุน 1,530,936,187.84 บาท ประกอบด้วย 1. กลุ่มงานศึกษา ค้นคว้าวิจัย เพื่อการพัฒนาและส่งเสริม จำนวน 1 โครงการ ,2. กลุ่มงานสื่อสาร และข้อมูล ข่าวสาร จำนวน 4 โครงการ และ 3. กลุ่มงานสนับสนุนลดต้นทุน ยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มเศรษฐกิจฐานรากและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ซึ่งแบ่งเป็นโครงการ Energy for all จำนวน 41 โครงการ
โดยสนับสนุนในรูปแบบ Block grant และโครงการทั่วไป ซึ่งมี 3 ประเภท คือ โครงการติดตั้งระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร จำนวน 968 โครงการ โครงการระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 1 โครงการ โครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับโรงเรียนในชนบท ประเภทไม่มีไฟฟ้า จำนวน 2 โครงการ และโครงการพระราชดำริ จำนวน 2 โครงการ
ทั้งนี้ ให้หน่วยงานมาลงนามในหนังสือยืนยันกับสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ส.กทอ.) ภายในวันที่ 28 กันยายน 2563 หากหน่วยงานไม่สามารถมาลงนามได้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนดดังกล่าว ให้ถือว่าโครงการนั้นเป็นอันยุติการได้รับการสนับสนุน สำหรับวันเริ่มต้นโครงการให้ถือเป็นวันที่ 29 กันยายน 2563 รวมถึงที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานผู้ได้รับการสนับสนุนโครงการภายใต้กลุ่มงานสนับสนุนลดต้นทุนฯ ของแผนเพิ่มประสิทธิภาพฯ และแผนพลังงานทดแทน ดำเนินการ ดังนี้
จัดส่งเอกสารตามเงื่อนไขการจัดทำข้อเสนอโครงการ ข้อที่ 2 ข้อมูลด้านผลประหยัด หรือระยะเวลาคืนทุน หรือข้อมูลความคุ้มค่าของการดำเนินโครงการ (B/C Ratio) ข้อที่ 6 แผนการสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตทางเศรษฐกิจ และข้อที่ 7 แผนการบำรุงรักษา ให้ ส.กทอ. ก่อนลงนามในหนังสือยืนยัน
โครงการผลิตไฟฟ้าเพื่อชุมชนพึ่งพาตนเอง (Off Gird) ทุกโครงการ ให้ผู้ได้รับการสนับสนุนดำเนินการขออนุญาตใช้พื้นที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จ พร้อมจัดส่งหนังสือใบอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ ในโครงการที่ได้รับการจัดสรรจากหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ ให้ ส.กทอ. ภายในวันที่ 15 กันยายน 2563 หรือในวันที่มาลงนามในหนังสือยืนยันกับ ส.กทอ.
ให้ผู้ได้รับการสนับสนุน (จังหวัด) โครงการพลังงานเพื่อเศรษฐกิจฐานรากฯ แจ้งมติให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ และดำเนินการลงนามในหนังสือยืนยันพร้อมก่อหนี้ผู้พันให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 135 วัน นับจากวันที่ 28 กันยายน 2563 หากไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ถือว่าโครงการเป็นอันยกเลิก
โครงการติดตั้งระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร จะต้องได้รับการตรวจสอบพื้นที่ภัยแล้งย้อนหลัง 5 ปี ยืนยันเรื่องความซ้ำซ้อนของผู้ใช้ประโยชน์ พื้นที่ที่ได้รับประโยชน์จากสำนักงานพลังงานจังหวัดและต้องได้รับการยืนยันความถูกต้องของเอกสารใบอนุญาตให้ใช้น้ำบาดาล (นบ.5) จากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ก่อนลงนามในหนังสือยืนยันกับ ส.กทอ.