นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ได้ประกาศปรับเพิ่มการให้บริการเดินขบวนรถโดยสารทางไกล และขบวนรถนำเที่ยวเพิ่มเติม จำนวน 30 ขบวน โดยเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป ประกอบด้วย
1. ขบวนรถโดยสารทางไกล จำนวน 30 ขบวน (ไป-กลับ) ดังนี้
1.1 สายใต้ จำนวน 10 ขบวน
- ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลราง ที่ 43 กรุงเทพ – สุราษฎร์ธานี เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2564
- ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 40 สุราษฎร์ธานี - กรุงเทพ เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2564
- ขบวนรถด่วนพิเศษทักษิณารัถย์ที่ 31 กรุงเทพ – หาดใหญ่ เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2564
- ขบวนรถด่วนพิเศษทักษิณารัถย์ที่ 32 หาดใหญ่ – กรุงเทพ เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2564
- ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางที่ 39/44 กรุงเทพ – สุราษฎร์ธานี – กรุงเทพ เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2564
- ขบวนรถด่วนที่ 83/84 กรุงเทพ – ตรัง – กรุงเทพ เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2564
- ขบวนรถเร็วที่ 175/176 หาดใหญ่ – สุไหงโกลก - หาดใหญ่ เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2564
1.2 สายเหนือ เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2564 จำนวน 4 ขบวน
- ขบวนรถเร็วที่ 107/108 กรุงเทพ – เด่นชัย – กรุงเทพ
- ขบวนรถเร็วที่ 109/102 กรุงเทพ – เชียงใหม่ – กรุงเทพ
1.3 สายตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2564 จำนวน 7 ขบวน
- ขบวนรถด่วนพิเศษอีสานมรรคาที่ 25 กรุงเทพ – หนองคาย
- ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลราง ที่ 71 กรุงเทพ – อุบลราชธานี
- ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลราง ที่ 75 กรุงเทพ – หนองคาย
- ขบวนรถเร็วที่ 139/140 กรุงเทพ – อุบลราชธานี – กรุงเทพ
- ขบวนรถเร็วที่ 145/146 กรุงเทพ – อุบลราชธานี – กรุงเทพ
1.4 สายตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2564 จำนวน 3 ขบวน
- ขบวนรถด่วนพิเศษอีสานมรรคา ที่ 26 หนองคาย - กรุงเทพ
- ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลราง ที่ 72 อุบลราชธานี - กรุงเทพ
- ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลราง ที่ 76 หนองคาย - กรุงเทพ
2. ขบวนรถนำเที่ยววันหยุด และขบวนรถพิเศษโดยสารวันหยุด เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่
วันที่ 13 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป จำนวน 6 ขบวน (ไป-กลับ)
- ขบวนรถนำเที่ยว 909/910 กรุงเทพ-น้ำตก-กรุงเทพ
- ขบวนรถนำเที่ยว 911/912 กรุงเทพ-สวนสนประดิพัทธ์-กรุงเทพ
- ขบวนรถพิเศษโดยสารที่ 997/998 กรุงเทพ-บ้านพลูตาหลวง-กรุงเทพ
ทั้งนี้เพื่อเป็นการดำเนินการให้สอดรับกับแนวทางการผ่อนปรนมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด–19) ของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ตลอดจนรองรับกับความต้องการของประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟที่คาดว่าจะมีปริมาณการเดินทาง ทั้งภายในเขตเมือง ระหว่างเมือง และทางไกลเพิ่มมากขึ้นหลังผ่อนคลายมาตรการฯ
อย่างไรก็ตามการรถไฟฯ ยังได้คำนึงถึงความสะดวกในการให้บริการของประชาชน ควบคู่กับมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด–19 ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางราง และกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยกำหนดจุดคัดกรองวัดไข้ผู้โดยสารก่อนเข้าในพื้นที่สถานี การตั้งจุดบริการแอลกอฮอล์ล้างมือ การให้สวมหน้ากาก การรักษาระยะห่าง Social Distancing ให้มีจุดยืน /นั่ง ให้ชัดเจนทั้งภายในสถานีและขบวนรถ โดยให้เว้นที่นั่งในลักษณะที่เว้นที่เพื่อไม่ให้ผู้โดยสารนั่งติดกัน ยกเว้นผู้โดยสารที่เดินทางมาด้วยกัน รวมทั้งยังให้มีการจำหน่ายตั๋วโดยสารไว้ที่ร้อยละ 50 ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด พร้อมกับให้สแกนแอพพลิเคชัน ไทยชนะ ก่อนและหลังใช้บริการ แต่หากผู้โดยสารไม่สามารถใช้แอพพลิเคชันไทยชนะ ให้สามารถกรอกข้อมูลการเดินทางแทน ขณะเดียวกัน ในบางพื้นที่ที่ยังคงมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด การรถไฟฯ ยังได้มีการขยายเวลางดการให้บริการเดินรถโดยสารเชิงพาณิชย์ชั่วคราวต่อไปจนกว่าจะแจ้งเปลี่ยนแปลง