ตามที่มีประเด็นการกล่าวอ้างของนายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน โดยการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Mana Nimitmongkol หัวข้อ เรื่อง “ความโปร่งใสที่ไม่จริงใจ ชั่วร้ายยิ่งกว่าโกงซึ่งๆ หน้า” โดยตั้งข้อสังเกตว่าการประมูลรถไฟทางคู่สายเหนือและสายอีสานมูลค่า 1.28 แสนล้านบาท มีความไม่โปร่งใส อาจมีการล็อคสเปค ฮั้วประมูลอยู่เบื้องหลัง ตั้งแต่การเปิดประมูล e-bidding บังหน้า ขณะที่กลไกตรวจสอบปกติในการป้องกันคอร์รัปชันอย่าง ป.ป.ช.และศาลกลับทำอะไรไม่ได้ พร้อมเรียกร้องประชาชนให้ตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชันที่เกิดขึ้นในประเทศ
การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ขอเรียนชี้แจงตามประเด็นข้อกล่าวหา ดังนี้
1. กติกาถูกเปลี่ยนก่อนการประมูล
การกล่าวหาว่ากติกาถูกเปลี่ยนก่อนการประมูล การรถไฟฯ ได้มีการปรับเปลี่ยนการแบ่งสัญญา 6+1 ของซูปเปอร์บอร์ด เป็น 3 สัญญารวมการติดตั้งอาณัติสัญญาณ เหมือนที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติรอบแรก เพราะมีประสบการณ์เปรียบเทียบสัญญาใหญ่รวม SNL ในทางคู่เส้นทางสายชุมทางจิระ กับชุมทางแก่งคอย เป็นโครงการที่มีความสำเร็จเสร็จใกล้เคียงเป้าหมายล่าช้าเพียง 6 เดือน จากปัจจัยภายนอก เช่น การเวนคืน และการปรับแบบสถานีบ้านไผ่ที่มีชาวบ้านเรียกร้องมา ส่วนทางคู่เฟส 1 ทั้ง 3 สายทาง แบ่งแยก SNL ปัจจุบันพบว่า กำหนดแล้วเสร็จของโครงการจะล่าช้าออกไปมากกว่า 2 ปี เพราะมีความล่าช้าตั้งแต่การประกวดราคา inter bid ของงานระบบอาณัติสัญญาณ และการประสานการทำงาน การส่งต่อข้อมูล การมอบพื้นที่ ระหว่างงานโยธากับ SNL จึงเป็นประสบการณ์ว่าการแบ่งสัญญาใหญ่รวม SNL มีผลกับความสำเร็จในการดำเนินงานมากกว่าการแบ่งเป็นสัญญาย่อย ซึ่งไม่ได้เป็นหลักประกันว่าจะเกิดการแข่งขันราคาได้อย่างสมบูรณ์ ยิ่งด้วยสถานการณ์ที่ค่าวัสดุเหล็กปรับตัวสูงขึ้นถึง 40% ในการประกวดราคาครั้งนี้
2. แบ่งเค้ก – ฮั้วราคา หรือไม่?
การกล่าวหาว่ามีการแบ่งเค้ก และฮั้วราคา เป็นเรื่องของการคาดเดาและเป็นเพียงข้อสันนิษฐานของผู้กล่าวหา ในส่วนของการรถไฟฯ ได้ดำเนินการทุกอย่างตามระเบียบขอบเขตของการรถไฟฯ เรามีการตรวจสอบการมีผลประโยชน์ร่วมกันของผู้ยื่นข้อเสนออย่างครบถ้วน ในส่วนของการยื่น ไม่ยื่น หรือยื่นอย่างไรของผู้ประกอบการเราไม่รู้ได้ การรถไฟฯ ได้ดำเนินการทุกขั้นตอนของการประกวดราคา ให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 อย่างเคร่งครัดแล้ว ซึ่งระบบการประกวดราคาแบบ e-Bidding เป็นระบบที่ได้พัฒนารูปแบบจากการประกวดราคาด้วยวิธีการยื่นซอง เป็นการประกวดราคาแบบ e-Auction จนกระทั่งเป็นการประกวดราคาแบบ e-Bidding ซึ่งถือว่าเป็นระเบียบที่มีความโปร่งใสมากที่สุดในปัจจุบันของทางราชการ
3. กลุ่มผูกขาด ไม่เชิญต่างชาติเข้าแข่งขัน
การรถไฟฯ ดำเนินการตามนโยบาย Thai First ไทยทำ ไทยใช้ คนไทยต้องได้ก่อน เป็นการสนับสนุนการจ้างงานในประเทศไทย จึงกำหนดให้ถ้ามีบริษัทที่ยื่นประมูลเป็นคนไทยสามารถยื่นประมูลได้ แต่หากยื่นเป็นกลุ่มผู้นำกลุ่มต้องเป็นคนไทย อย่างไรก็ตามงานก่อสร้างอุโมงค์ต้องมีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้เพิ่มการแข่งขันของงานก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายเด่นชัย เชียงราย เชียงของ ซึ่งกำหนดให้งานอุโมงค์ผู้ที่จะยื่นประมูลสามารถนำผลงานในไทยหรือใช้ผลงานจากต่างประเทศได้ และหากผู้ร่วมประมูลเป็นต่างชาติก็สามารถเข้าร่วมกับบริษัทของไทยที่มีผลงานทางรถไฟ นอกจากนั้นแล้ว 2 โครงการนี้ การรถไฟฯ ใช้เงินกู้ภายในประเทศ เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศขณะนี้ยังซบเซาคงต้องส่งเสริมและกระตุ้นธุรกิจภายในประเทศให้มากขึ้น เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนอยู่ภายในประเทศ
4. ถูกกฎหมายแต่ขัดใจประชาชน
การรถไฟฯ ขอยืนยันว่าการดำเนินงานทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้างของกระทรวงการคลังอย่างเคร่งครัด ในช่วงเผยแพร่เอกสารประกวดราคา แบบ ราคากลาง และเอกสารอื่นๆ ทั้งหมด ได้มีการนำลงในเวบไซต์กรมบัญชีกลาง และการรถไฟฯ ล่วงหน้าตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 พร้อมกับมีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วกัน ผู้ประกอบการ และผู้สนใจ สามารถเข้าดูและโหลดเอกสารได้ อีกทั้ง สามารถให้ความเห็นผ่านช่องทางที่กำหนด จริงๆ ผู้ที่วิจารณ์ในตอนนี้ก็สามารถเข้าดู และแสดงความคิดเห็นได้ตั้งแต่ช่วงดังกล่าว แล้วผู้กล่าวอ้าง มั่นใจอย่างไร ว่าขัดใจประชาชนไปทั้งหมด ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ต่างรอคอย เฝ้ารอโครงการอย่างจดจ่อ โดยเฉพาะสายเด่นชัย – เชียงราย - เชียงของ ประชาชนรอคอยกันมาหลายสิบปี นับตั้งแต่ริเริ่มโครงการ ในสายบ้านไผ่ - มุกดาหาร - นครพนม ก็เช่นเดียวกัน ประชาชนต่างเฝ้ารอคอยการเกิดขึ้นของโครงการทางรถไฟในเส้นทางสายนี้ที่จะเข้าไปพัฒนาพื้นที่เพื่อเพิ่มศักยภาพของพื้นที่ในจังหวัด
5. อย่าปล่อยตามยถากรรม
การรถไฟฯ รับหน้าที่จากรัฐบาลให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ทั้ง 2 เส้นทางนี้ ให้ลุล่วงตามเป้าหมายและแผนงานที่วางไว้ หากจะมองแต่เรื่องการประมูลงานอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องมองความสำเร็จภาพรวมของงานที่ได้รับมอบหมาย และเป็นไปตามเวลาที่วางไว้เป็นสำคัญอีกด้วย
การแก้ไขปัญหา :
สำหรับประเด็นการกล่าวหาดังกล่าว การรถไฟฯ ไม่ได้นิ่งเฉย ได้มีการมอบหมายให้ที่ปรึกษาการประกวดราคาตรวจสอบยืนยัน ความเหมาะสมของเงื่อนไข และราคากลางของงาน พบว่า ราคากลาง ราคาค่าก่อสร้างทั้ง งานโยธา/งานทางรถไฟ และอาณัติสัญญาณฯ เฉลี่ย ต่อ กม. ของโครงการรถไฟทางคู่สายเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ และทางคู่สาย บ้านไผ่ - มุกดาหาร – นครพนม มีราคาต่อ กม. ต่ำกว่าโครงการทางคู่ที่ก่อสร้างมาก่อนหน้านี้ทุกสาย และยังพบว่า ราคาค่าก่อสร้างอุโมงค์ ต่อ กม.ของคู่สายเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ ต่ำกว่างานก่อสร้างอุโมงค์ ช่วงมาบกะเบาในทางคู่ ระยะที่ 1 ของสายตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งๆ ที่สภาพพื้นดินสายเด่นชัยฯ เป็นชั้นหินผุ ซึ่งทำงานยากกว่า จึงพิสูจน์ได้ว่าราคากลางของโครงการทางคู่สายเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ และทางคู่สาย บ้านไผ่ - มุกดาหาร – นครพนม มีราคาที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์กับทางราชการสูงสุด
(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม การรถไฟฯ เคลียร์ทุกปม ประมูลรถไฟทางคู่!!นายสุรณเดช ธูปะวิโรจน์ วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง Link https://youtu.be/lBFi7_KQFOU)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง