นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ผู้ประสบภัย ณ วัดบางพลีใหญ่ใน อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการพร้อมกับนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่าขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของอาสาสมัครกูชีพที่เพิ่งที่เสียชีวิตไปและขอเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกท่านทุกฝ่าย ทั้งในส่วนกลางส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่นที่ได้ลงมาปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถและยังต้องมีภารกิจต่อไปอีกจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายทั้งหมด
โดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้นำสิ่งของมาช่วยบรรเทาบางส่วนร่วมกับผู้ที่ประสบภัย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์นำเจลมา 1,000 ชุด น้ำดื่ม 2,000 ขวด และมูลนิธิหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมชนำหน้ากากอนามัยมา 20,000 ชิ้น เพื่อมอบให้กับหน่วยการปกครองส่วนท้องถิ่นทำหน้าที่บริหารจัดการกระจายตามจุดต่างๆตามความเหมาะสมต่อไป
อย่างไรก็ตามในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดติดตามสถานการณ์ตั้งแต่ตอนเกิดเหตุและติดตามสถานการณ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนงานของตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี ก็มีนิติบุคคลที่จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์อยู่ 6,000 กว่าแห่ง ซึ่งขณะนี้ก็เตรียมการในการประเมินความเสียหาย โดยทางนิติบุคคลใดที่ได้รับผลกระทบหรือได้รับความเสียหายต้องการให้กระทรวงพาณิชย์ให้ความช่วยเหลือประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถที่จะไปร้องเรียนหรือให้ข้อมูลได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือที่เบอร์โทรศัพท์ 02-395-1148 ให้บริการในช่วงที่ประสบกับภัยพิบัติ ส่วนในเรื่องการประเมินความเสี่ยงยังไม่สามารถประเมินได้ทั้งหมดเบื้องต้นในเขตพื้นที่ที่อยู่ในบริเวณใกล้กับที่เกิดเหตุพบว่ามีคลังสินค้าอยู่หนึ่งแห่งซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุ 100-200 เมตร ที่พาณิชย์จังหวัดรายงานให้ทราบ คือ
1.คลังสินค้าของบริษัท ดี เอช เอ สยาท วาลา จำกัดซึ่งทำธุรกิจรับฝากสินค้าและดูแลสินค้ามีเครื่องเขียน อุปกรณ์สำนักงาน รวมทั้งในส่วนของรับฝากเก็บชิ้นส่วนยานยนต์รวมทั้งวัตถุดิบเพื่อการผลิตหน้ากากอนามัยทั้งเพื่อการนำเข้าและส่งออกยังประเมินความเสียหายไม่ได้แต่ก็จะส่งพาณิชย์จังหวัดทำหน้าที่ประสานงานต่อไป
และ 2. บริษัท ไทยเอ็กซ์ เซลฟู้ดส์ จำกัด ซึ่งเป็นห้องเย็นที่อยู่ข้างจุดเกิดเหตุประมาณ 400-500 เมตร รับฝากเก็บอาหารนำเข้าและส่งออก ให้ติดตามประเมินว่าได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหนกระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปช่วยเหลือต่อไป