EA ผนึก มทร.อีสาน พัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ครบวงจร

21 ก.ค. 2564 | 12:04 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ก.ค. 2564 | 19:03 น.

EA ผนึก มทร.อีสาน พัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ครบวงจร เตรียมความพร้อมภาคแรงงาน การผลิตและซ่อมบำรุง วิจัยพัฒนาแบตเตอรี่และสถานีอัดประจุไฟฟ้า ส่งเสริม Green University

รายงานข่าวระบุว่า บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA)ได้ดำเนินการร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) เพื่อพัฒนาพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทุกประเภท ตามนโยบายการเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวและการพัฒนามหาวิทยาลัยอย่างยั่งยืน และการนำเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนเพื่อจัดการระบบการขนส่งภายใน ซึ่งจะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของบุคลากรและนักศึกษาในการใช้พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างรู้คุณค่า และสังคมตระหนักถึงการพัฒนาควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายกสภา มทร. อีสาน เปิดเผยว่า เป็นที่ทราบและยอมรับกันทั้งในประเทศและต่างประเทศว่า EA ถือเป็นบริษัทชั้นนำของคนไทย มีความโดดเด่นทางด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาด และเทคโนโลยีในการกักเก็บพลังงานเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมไฟฟ้าและยานยนต์ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยเข้าสู่ยุคพลังงานสะอาด ด้าน มทร.อีสาน ดำเนินนโยบายมหาวิทยาลัยสีเขียว และมุ่งมั่นพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนที่ตอบสนองต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และเป็นสถาบันอุดมศึกษา ที่ได้มุ่งเน้นการจัดทำหลักสูตรการศึกษาและการวิจัยพัฒนาด้านระบบรางของประเทศไทยภายใต้ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำทางด้านโลจิสติกส์และระบบรางของต่างประเทศ อันเป็นเป้าหมายความสำเร็จร่วมกันของทั้งสององค์กร รวมทั้งจะเป็นพื้นฐานในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด และระบบการขนส่งและโลจิสติกส์ที่สำคัญของประเทศไทยและของโลกในอนาคตอันใกล้นี้

รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร รักษาราชการแทนอธิการบดี มทร.อีสาน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ประมาณเดือนมกราคม 2564 มทร. อีสาน ได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือกับ EA ในการศึกษาวิจัยนวัตกรรมการปลูกและพัฒนาสายพันธุ์พืชสมุนไพร รวมไปถึงกัญชง กัญชา เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์แผนไทยและการสาธารณสุข โดยความร่วมครั้งล่าสุดดังกล่าวถือเป็นการต่อยอดกับ EA  
นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวจะนำไปสู่การพัฒนาบุคลากร สร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า New S-Curve ที่จำเป็นต้องใช้ทักษะแรงงานฝีมือ รองรับการเติบโตในอนาคต โดยกำลังเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส เตรียมพร้อม Up-skill / Re-skill บุคลากรไทย สร้างนวัตกรรมใหม่เพื่อให้ประเทศไทยดำรงความเป็น Detroit of Asia และรักษาอุตสาหกรรมหลักนี้ไว้ 

"ยานยนต์ไฟฟ้าเหมาะกับประเทศไทย เพราะประสิทธิภาพที่ดีกว่า ช่วยประหยัดต้นทุนพลังงานและแก้ปัญหา PM 2.5 เสริมจุดแข็งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการแพทย์ของไทย นอกจากความร่วมมือด้านวิศวกรรม การพัฒนากัญชง CBD สูงร่วมกับ มทร. อีสาน จะเป็นประโยชน์ต่อการแพทย์และเพิ่มมูลค่าภาคเกษตรกรรม ช่วยยกระดับรายได้ของคนไทยให้ก้าวข้าม Middle Income Trap หากเราเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทยและร่วมกันส่งเสริมคนไทย”