"จุรินทร์" ถกด่วน แก้ปัญหาขนส่งมังคุดใต้ เร่งดันเข้าตลาดจีนผ่านด่านตงชิง

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับทูตพาณิชย์ ทูตเกษตร ที่ประจำอยู่ที่จีน ผู้ประกอบการล้งผลไม้ ผู้ส่งออกผลไม้ และผู้ประกอบการขนส่งผลไม้ เพื่อหามาตรการช่วยเหลือชาวสวนมังคุดภาคใต้ พร้อมเสนอซ้ำ ได้เสนอแนะให้ผู้ส่งออกหันไปใช้การส่งออกมังคุดไปจีนผ่านด่านตงซิง และสถานีรถไฟผิงเสียงแทนด่านโหย่วอี้กวน ที่ปัจจุบันมีศักยภาพจำกัด มีช่องทางผ่านด่านแค่ 67 ช่อง ซึ่งทางการจีนได้แจ้งว่าหากไทยไปใช้บริการผ่านด่านตงซิง และสถานีรถไฟผิงเสียง จะจัดเจ้าหน้าที่ไปอำนวยความสะดวกให้ โดยเฉพาะด่านตงซิง มีรถบรรทุกไทยไปใช้บริการแค่วันละ 10-20 คันเท่านั้น ซึ่งได้หารือกับสมาพันธ์โลจิสติกส์ไทยหาลู่ทางไปใช้ด่านตงซิง ด่านสถานีรถไฟผิงเสียงให้มากขึ้น

นอกจากนี้ ยังโทรศัพท์พูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัด จันทบุรี นครศรีธรรมราช และชุมพร แก้ไขปัญหาการขาดแคลนล้งและแรงงานที่ติดไปกับล้ง ที่จะลงไปรับซื้อและคัดแยกมังคุดในพื้นที่รวบรวมใหญ่ที่นครศรีธรรมราช และชุมพร โดยผู้ว่าฯ ทั้ง 3 จังหวัด ช่วยผ่อนผันให้ล้งและแรงงานเคลื่อนย้ายไปซื้อมังคุดที่นครศรีธรรมราช ชุมพร และจังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้ได้ โดยทำงานร่วมกันระหว่างแรงงานจังหวัด และสาธารณสุขจังหวัด ในการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโควิด-19 ซึ่งล้งและตัวแทนล้ง จะรีบดำเนินการเคลื่อนย้ายเพื่อเข้าพื้นที่ต่อไป โดยล่าสุดที่จ.นครศรีธรรมราช มีล้งเข้าไปแล้วประมาณ 100 ล้ง

พร้อมกันนี้ ยังมีมาตรการช่วยสนับสนุนค่าบริหารจัดการ การรวบรวมผลไม้เพื่อนำไปจำหน่ายต่อกิโลกรัม (กก.) ละ 3 บาท และเพื่อการส่งออก กก.ละ 5 บาท ช่วยเกษตรขายผลไม้ โดยสนับสนุนกล่อง 2 แสนใบ ขอได้ทางไปรษณีย์ เร่งประสานห้างแม็คโคร บิ๊กซี โลตัส ปั๊ม ปตท. บางจาก เปิดพื้นที่ให้นำมังคุดไปจำหน่าย ผลักดันการทำเกษตรพันธสัญญา

ล่าสุดมีการทำสัญญาแล้ว 1.76 หมื่นตันจากเป้าหมาย 2 หมื่นตัน ร่วมมือกับกองทัพบก สถานีโทรทัศน์ ททบ.5 จัดกิจกรรมรณรงค์บริโภค และยังได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัด ในฐานะเซลส์แมนจังหวัดช่วยระบายมังคุด ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบายไปแล้ว 200 ตัน ขายไปพิษณุโลก เชียงใหม่เชียงราย เป็นต้น รวมทั้งได้มอบหมายให้นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่ไปช่วยดูแลและแก้ไขปัญหาด้วย

ด้านการค้าชายแดนและผ่านแดนในเดือนมิ.ย.2564 มีมูลค่า 146,094 ล้านบาท เพิ่ม 41.68% แยกเป็นการค้าชายแดนกับมาเลเซีย มูลค่า รวม 24,849 ล้านบาท เพิ่ม 15.33% สปป.ลาว มูลค่า 17,894 ล้านบาท เพิ่ม 18.40% เมียนมา มูลค่า 17,139 ล้านบาท เพิ่ม 31.79% กัมพูชา มูลค่า 13,494 ล้านบาท เพิ่ม 20.99% และการค้าผ่านแดนกับ   จีน มูลค่า 35,740 ล้านบาท เพิ่ม 86.56% สิงคโปร์ มูลค่า10,158 ล้านบาท เพิ่ม 81.65% และเวียดนาม มูลค่า 6,082 ล้านบาท เพิ่ม 16.91%

1. ปัจจัยที่ช่วยเพิ่มยอดการค้าชายแดนและผ่านแดน เป็นผลมาจากการทำงานเชิงรุกร่วมกับภาคเอกชนในนาม กรอ.พาณิชย์ ที่เมื่อมีปัญหา ก็ร่วมมือกันลงไปแก้ปัญหา และมีการทำเป้าหมายเร่งเปิดจุดผ่านแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้การค้าชายแดนคล่องตัว โดยตั้งแต่เม.ย.2563 ถึงมิ.ย.2564 จากด่านที่เปิด 25 ด่าน เพราะติดโควิด-19 ได้กลับมาเปิดแล้ว 44 ด่าน และมีเป้าหมายที่จะร่วมกับภาคเอกชนเร่งรัดเปิดด่านอีก 11 ด่าน เช่น ด่านปากแซง อ.นาตาลจ.อุบลราชธานี ที่ได้มีการลงนามใน MOU ระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กับผู้ว่าแขวงสาละวันไปแล้ว ขณะนี้กำลังพิจารณารายการสินค้าที่จะเปิดค้าขาย ซึ่งคาดว่าจะเปิดได้เร็ว ๆ นี้