ดร.ธนดร พุทธรักษ์ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า เทศบาลนครอุดรธานีโดยมติของหัวหน้าส่วนเทศบาลนครอุดรธานี คณะกรรมการจัดหาประโยชน์ในทรัพย์สินของเทศบาลนครอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ประกอบกับหนังสือขอความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทย ที่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งทั่วประเทศ พิจารณาหาทางช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่ ที่ได้รับความกระทบกระเทือนเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของโรคโควิค-19 แล้วแต่กรณี
เทศบาลนครอุดรธานี จึงให้”งดเก็บเก็บค่าเช่าแผง”ของตลาดสดเทศบาล 1-2 ตลาดสดบ้านห้วย ซึ่งเช่าพื้นที่มาจากกรมธนารักษ์ ร้านนวดแผนไทย ร้านค้าริมหนองสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม เป็นเวลา 5 เดือนจากเดือนสิงหาคม ถึง เดือนธันวาคม 2564 เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ค้าปลีกรายย่อยผู้ค้าแผงลอย และเพื่อให้เศรษฐกิจฐานรากสามารถขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไปได้
ดร.ธนดร กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิค-19 รอบ 3 ในจังหวัดอุดรธานี ส่งผลกระทบสร้างความเดือดร้อนไปยังธุรกิจน้อยใหญ่ แม้กระทั่งผู้ค้าขายสินค้ารายย่อย หรือพ่อค้าแม่ค้าตามแผงในตลาดสด ที่อยู่ในเขตเทศบาลนครอุดรธานีก็ไม่เว้น ทางเทศบาลนครอุดรธานี จึงมีความเห็นร่วมกันว่า หลายส่วนได้รับการเยียวยาตามมาตรการต่าง ๆ ของรัฐ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน แต่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดเทศบาลยังไม่ได้รับการเยียวยาแต่อย่างไร
จึงได้นำเอาเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมหัวหน้าส่วนเทศบาลนครอุดรธานี คณะกรรมการจัดหาประโยชน์ในทรัพย์สินของเทศบาลนครอุดรธานี ผ่านความเห็นชอบระดับจังหวัด ประกอบกับมีหนังสือขอความร่วมมือของกระทรวงมหาดไทยถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ค้ารายย่อยแล้วแต่กรณี เพื่อลดความเดือดร้อนจะลดหรืองดจัดเก็บค่าเช่าซึ่งสามารถทำได้ เทศบาลนครอุดรธานีเห็นควรให้ยกเว้นค่าเช่า หรือประโยชน์ตอบแทนอื่นที่ได้จากการเช่า จนเป็นที่มาของการงดเก็บค่าเช่าแผงในตลาดสดและอื่น ๆ ตั้งแต่เดือน สิงหาคม - ธันวาคม 2564 เป็นระยะเวลา 5 เดือนดังกล่าว
ผู้จะได้รับการเยียวยาในมาตรการนี้ ประกอบด้วย ผู้เช่าแผงขายผัก อาหารสด-แห้ง ตลาดสดเทศบาล 1และ 2 ตลาดสดบ้านห้วย ซึ่งเช่าพื้นที่จากโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล ที่เป็นผู้ถือสิทธิ์เช่าพื้นที่จากกรมธนารักษ์ และร้านค้าที่ตั้งอยู่ที่ถนนเทศา ริมหนองประจักษ์ศิลปาคม
ดร.ธนดร กล่าวอีกว่า ยอมรับว่าในระยะ 5 เดือนดังกล่าว เทศบาลนครอุดรธานีต้องขาดรายได้จากค่าเช่าแผงในตลาดสดที่เทศบาลดูแลรับผิดชอบ ร้านค้าริมหนองประจักษ์ศิลปาคมไป แต่เมื่อนำเอาผลประโยชน์ที่พี่น้องประชาชน ที่เป็นพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยได้รับความเดือดร้อน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิค-19 แล้วเทียบค่ากันไม่ได้ เพราะความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนต้องถือเป็นเรื่องที่ต้องมาก่อน
เทศบาลนครอุดรธานีในฐานะที่ต้องดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ปกครอง ต้องเข้าไปให้การช่วยเหลือดูแลพี่น้องประชาชน ให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้ตามสภาพที่สมควร ในฐานะตัวแทนของพวกเขา ในเรื่องของรายได้ที่ขาดหายไปในระยะ 5 เดือนนั้น ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ทางเทศบาลมีความสามารถจัดการบริหารได้
“ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ เศรษฐกิจฐานรากของชุมชนต้องสามารถขับเคลื่อนไปได้ เป็นเรื่องที่ในฐานะตัวแทนของประชาชนต้องให้ความสำคัญ ตามนโยบายที่คณะผู้บริหารเทศบาลชุดนี้ที่กำหนดเอาไว้” ดร.ธนดรกล่าวย้ำ
ทั้งนี้ ดร.ธนดร ได้มอบหมายให้น.ส.ฉัตรฤดี ต.ศรีวงษ์ รองนายกเทศมนตรีนครอุดรธานี พร้อมด้วยนายประจวบ ทองเย็น ที่ปรึกษานายกเทศมนตรี นายศาสวัต สนสายสิงห์ ผู้อำนวยการส่วนพัฒนารายได้ เจ้าหน้าที่ส่วนพัฒนารายได้ สำนักคลัง และเจ้าหน้าที่สำนักสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันลงพื้นที่เมื่อ 5 ส.ค. 2564 เดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์ การงดเก็บค่าเช่าและปรับลดการเก็บค่าเช่า ในทรัพย์สินของเทศบาลนครอุดรธานี ให้แก่ผู้ประกอบการ รวมถึงผู้ค้าในตลาดสด ให้รับทราบ เป็นระยะเวลา 5 เดือน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม-ธันวาคม 2564