ผู้เลี้ยงไก่ไข่ โอดตกเป็นแพะ ขายไข่เกินราคาประกาศ

นายมาโนช ชูทับทิม ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และนายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ ได้โพสต์ในกลุ่มแอพพลิเคชั่นไลน์สมาชิก ว่า ช่วงนี้ผมพยายามอยู่เฉยๆไม่เต้นไปตามข่าวเรื่องราคาไข่มากนักเหตุเพราะสมาคมผู้เลี้ยงฯ 4 องค์กร ได้มีมติร่วมมือกับราชการที่พยายามตรึงราคาไข่ไว้ ณ หน้าฟาร์ม ที่ 3.00 บาท/ฟอง ซึ่งเป็นความยากลำบากอย่างยิ่งกับกระการกลไกตลาดในอดีตไม่เคยปรากฏมาก่อน แต่ด้วยสภาพปัญหาของชาติที่กำลังเกิดวิกฤติโรคระบาดพวกเราคนไทยด้วยกันต้องเห็นสำคัญกับปัญหาดังกล่าวด้วยความรับผิดชอบในฐานะคนไทยคนหนึ่ง

ถ้าพูดถึงปัญหาไข่ขาดไข่แพงอย่าเอามันเพียงคำพูดโดยไม่รับผิดชอบว่าเกิดเพราะคนเลี้ยงปั่นราคาทั้งๆที่ความชอบธรรมถ้าขาดจริงกลไกตลาดเป็นเช่นนั้นอยากถามว่าผิดด้วยหรือที่คนเลี้ยงจะได้ราคาที่มากกว่านี้ ( ฟองละ 3.00 บาท ) ทั้งๆที่ต้นทุนอาหารสัตว์ขึ้นราคาไปมากกว่า 20-30%  นี่ยังไม่พูดถึง เอ้กบอร์ด Eggboard  เคยมาตรการ ราคาไว้ว่าต้นทุนไข่บวกได้ อีก 20 % 

“ท่านทราบหรือไม่ว่าราคาที่ขายไข่ไก่ตามมติ เอกบอร์ด Eggboard  ที่เท่าไหร่ อย่างน้อย ต้อง 3.30 บาทต่อฟอง แล้ว จากต้นทุนเดิม เมื่อ 4-5 เดือนที่ผ่านมา สศก. หรือ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรกับคณะกรรมการเคยยืนยันไว้ที่ ฟองละ 2.76 บาท ถ้าเป็นราคานี้เกษตรกรควรได้ถึง 3.30 บาทแล้ว ทุกท่านอย่าลืมว่าช่วงราคาไข่ต่ำสุดในแต่ละรอบปีบางครั้งปีละสองครั้ง ”

ถามว่าขาดทุนไหมยังมีพ่อหน้าเลือดขาดคุณธรรมกดราคารับซื้อไข่บางฟาร์มเหลือแค่ 1.80-2.00 บาทมีให้เห็นเป็นที่รู้กันไม่ใช่ในกลุ่มผู้เลี้ยงเท่านั้น ในวงราชการที่เกี่ยวข้องต่างทราบดีก็น่าจะมีแต่กลุ่มพ่อค้ากลุ่มนี้ที่ขาดคุณธรรมกดหัวคนเลี้ยงจนบางฟาร์มต้องเลิกออกจากวงการเลี้ยงไก่ไข่ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันฟาร์มจนจะเหลือแต่คนที่หัวแข็งทนกันไปไม่รู้จะไปทำอะไรกิน

“ผมเรียกร้องสังคมทั่วไปได้โปรดเข้าใจเห็นเกษตรกรคนเลี้ยงไก่ด้วยไม่มีเกษตรกรที่ไหน จะร่ำรวยจากทำอาชีพเกษตร และอาชีพเกษตรทุกชนิด ตั้งราคาเองไม่ได้ถูกขาดก็ต้องขายพอจะขายดีมีกำไรก็ด้วยภาวะที่ไม่ปกติและปัญหาของชาติซึ่งเรายินดีร่วมมือมาตลอด ยังมาถูกกล่าวหา แต่ถ้าดูดีๆ ราคาที่ออกจากฟาร์มแทบไม่มีเลยจากราคาประกาศจะมีก็พ่อหน้าเลือดตรงไหนไม่รู้โก่งราคากำไรต่อฟองมากเกษตรกรมีกำไรเสียอีกทั้งๆที่แทบไม่ต้องลงทุนมีความเสี่ยงร้อยแปดเหมือนคนเลี้ยง

สุดท้ายขณะนี้ราชการก็ผ่อนปรนให้ยืดอายุการเลี้ยงออกไปอีก 2 เดือนภาวะก็หน้าจะคลี่คลายลงได้ระดับหนึ่ง อีกอย่างขอให้ราชการอย่าถือโอกาศนี้ไปไล่จับคนเลี้ยงเพราะไม่มีประโยชน์ควรไปไล่จับคนที่ค้ากำไรเกินควรมากกว่า มาไล่จับคนเลี้ยงต่อไปใครอยากจะมาเลี้ยงไกออกไข่ให้กินเวลาถูกขาดทุนปล่อยไปตามเวรตามกรรมปล่อยให้พ่อค้าขูดรีดกดราคาไม่จบไม่สิ้นแต่พอมีกำไรบ้างจะมาไบ่จับ ทั้งๆจะจับให้ถูกคนโน่นคนขายให้ผู้บริโภคโน่นครับ  อย่าจับผิดตัวเลย

ขณะที่สมาชิกเกษตรกร กล่าวต่อว่า ไข่แพง เพราะ ฟาร์ม หรือ ?…ถามคนที่รับไข่ไปขายดีกว่าไหม นำเสนอ ให้ กรมการค้าภายใน ไปไล่บี้ ที่ จุดที่ผู้บริโภค ซื้อถ้า ซื้อมาแพง ค่อยไล่ตาม ไปทีละขั้น "ฟาร์มไก่ไข่" ไม่น่าจะต้องมาเป็น “จำเลย” ของสังคม