วันที่ 13 สิงหาคม 2564 นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง เปิดเผย “ผู้สื่อข่าว”ว่า ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดพัทลุง มีการการยื่นซองประมูลรังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง ครั้งที่ 9 โดยมี 3 บริษัทที่เข้าร่วมยื่นซองประมูล
โดยผู้เสนอราคาสูงสุดคือ บริษัท สยามเนสท์ 2022 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเดิมที่เป็นคู่สัญญาประมูลเมื่อครั้งที่แล้ว แต่ได้มีการจดทะเบียนใหม่ โดยเสนอราคาที่ 400 ล้านบาท สูงจากราคาที่กำหนดไว้ที่ 360 ล้านบาท
บริษัทที่ 2 คือ บริษัท เค.โอ.ซี.อิมปอร์ต เอ็กซ์ปอร์ต จำกัด ซึ่งก็เป็นบริษัทที่เคยเซ็นต์สัญญากับจังหวัดเมื่อก่อนหน้าโน้น เป็นคู่ค้าเก่าในอดีต เสนอราคา 381 ล้านบาท
และบริษัทที่ 3 ก็คือบริษัท บี.เอส.บี.กรุ๊ป จำกัด เสนอราคา 370,100,000 บาท
"ตอนนี้เป็นการรับทราบราคาเสนอก่อน แต่ยังไม่ประกาศผู้ชนะ โดยขั้นตอนต่อจากนี้ คณะกรรมการจะตรวจสอบคุณสมบัติและตรวจสอบหลักประกันซอง ซึ่งหลักประกันซองเป็นเอกสารธนาคาร เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติเสร็จเรียบร้อยก็จะประกาศผู้ชนะการประมูลต่อไป ซึ่งคณะกรรมการจะต้องตรวจสอบเอกสารหลักฐานให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ”
นายกู้เกียรติ กล่าวและว่า หลังจากที่มีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ถูกต้องครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว จะประกาศผู้ชนะ ซึ่งคาดว่าน่าจะประมาณวันจันทร์หรืออังคารหน้า
“หลังจากตรวจสอบเอกสารหลักฐานธนาคาร เอกสารที่ยื่นซองทั้งหมด เมื่อชัดเจนเรียบร้อย ก็จะประกาศผู้ที่มีเอกสารหลักฐานถูกต้องทั้ง 3 ราย และใน 3 รายใครเป็นผู้ชนะ ในราคาเท่าไหร่ ขั้นตอนก็ประมาณนั้น”
สำหรับการประมูลครั้งนี้เป็นการประมูลครั้งที่ 9 ราคากลางอยู่ที่ 360 ล้านบาท ซึ่งผู้เข้าร่วมยื่นซองประมูลทุกรายมีการเสนอราคาที่สูงกว่าราคากลางทั้งหมด
ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ยังกล่าวอีกว่า การที่ผู้เข้าร่วมยื่นซองประมูลเสนอราคาสูงกว่าราคากลางทั้งหมดนั้น ก่อนหน้านี้ทางคณะกรรมการฯ ก็เชื่ออยู่แล้วว่าราคาก็คงจะต่ำกว่า 400 ล้านบาทเล็กน้อย หรือไม่น่าจะเกิน 400 ล้านบาทในคราวนี้ แต่ถ้าหากมีการกำหนดราคากลางที่สูงไป ก็จะไม่มีผู้เข้าร่วมยื่นซองประมูลอีก ก็เลยเป็นที่มาของการกำหนดราคากลางที่ 360 ล้านบาท
“ซึ่งเชื่อว่าเป็นราคากลางที่จะต้องมีการแข่งขันกันแน่นอน และก็ได้ราคาที่สูงกว่าราคากลางในระดับนี้ ก็ถือว่าคณะกรรมการฯมีความพอใจในราคานี้ จากภาวะที่เกิดสถานการณ์โควิด-19” ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าว
ทั้งนี้ ในการประกาศครั้งแรก เพื่อประกวดราคาหาผู้รับสัมปทานรอบใหม่ 5 ปี (15 มิ.ย.2564-14 มิ.ย.2569) กำหนดราคากลางที่ 500 ล้านบาท สูงกว่ารอบเดิมที่ประมูลได้ที่ 405 ล้านบาท แต่ปรากฎว่าไม่มีผู้สนใจเข้าร่วมประมูล ต้องประกาศใหม่และลดราคากลางลงเรื่อยมา
กระทั่งในการประมูลรอบนี้ซึ่้งเป็นประกาศครั้งที่ 9 กำหนดราคาขั้นต่ำลงมาอยู่ที่ 3360 ล้านบาท ต่ำกว่าราคาประมูลรอบที่แล้วที่ได้ 405 ล้านบาท และประสบความสำเร็จ มีผู้เข้ายื่นซองเสนอราคา 3 ราย ซึ่งล้วนสูงกว่าราคาขั้นต่ำ แต่ก็ต่ำกว่ารอบที่แล้ว