มาแน่ “ประกันรายได้ยางพารา ปี3” รับเงินสูงสุด 60 บาท/กก.

14 ส.ค. 2564 | 09:29 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ส.ค. 2564 | 16:29 น.

“สุนทร” บอร์ด กยท. ควบตำแหน่งคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ แจ้งข่าวดี โครงการประกันรายได้ยางพารา ปี3 รับเงินสูงสุด 60 บาท/กิโลกรัม มาแน่! “เฉลิมชัย” เตรียมจัดหาเงินหมื่นล้าน ตุนจ่ายเพิ่มหากราคาตก จ่ายต่อเนื่อง ไม่สะดุด

“นโยบายประกันรายได้เกษตรกร” ได้ถูกบรรจุให้เป็น 1 ใน 12 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งขับเคลื่อนโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และในฐานะรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  นับว่าเป็นนโยบายสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรทั่วประเทศ ครอบคลุมพืชเศรษฐกิจสำคัญ 5 ชนิด ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน, ข้าว, ยางพารา, มันสำปะหลัง และข้าวโพดแล้ว ที่สำคัญ นโยบายนี้ ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศอีกด้วย โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศกำลังเผชิญกับสภาวการณ์วิกฤตอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัส "โควิด-19" จนทำให้รัฐบาลต้องตัดสินใจ "ล็อกดาวน์" ในพื้นที่สีแดงเข้ม ยิ่งเป็นทำให้อาชีพเกษตรกร ตกอยู่ในภาวะลำบากมากขึ้น

 

สุนทร รักษ์รงค์

 

นายสุนทร รักษ์รงค์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรรมการการยางแห่งประเทศไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า แม้ราคายางพาราจะขยับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยเหตุปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมทั้งความพยายามแก้ไขปัญหาของการยางแห่งประเทศไทย ที่ผ่านการปรึกษาหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ในฐานะรัฐมนตรีที่กำกับดูแลการยางแห่งประเทศไทย

 

การยางแห่งประเทศไทย (กยท.)  ภายใต้การบริหารจัดการของ นายสุขทัศน์ ต่างวิริยะกุล รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ด้านปฏิบัติการ ที่ดูแลฝ่ายเศรษฐกิจยาง ฝ่ายพัฒนาเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง รวมทั้งเขตพื้นที่การยางแห่งประเทศไทยทั่วทั้งประเทศ ได้ดำเนินการโครงการชะลอการขายยาง ทั้งยางก้อนถ้วย น้ำยางสด รวมทั้งการแปรรูปยางโดยสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางนั้น วันนี้ได้ปรากฎผลงานที่เป็นรูปธรรม นั่นคือราคายางมีแนวโน้มขยับสูงขึ้นตามลำดับ

 

แต่เชิงนโยบายแล้วโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง โดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เป็นหลักประกันรายได้จากการขายยางให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางตามราคาประกันรายได้ เพื่อให้พี่น้องชาวสวนยางทั้งบัตรสีเขียวและบัตรสีชมพูมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ก็ประผลสำเร็จในระดับที่เกษตรกรชาวสวนยางมีความพึงพอใจ ทั้ง 2 เฟสในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา


 

“ดังนั้นในช่วงปลายปี 2564 ผลผลิตยางจะมีปริมาณสูงสุด ผมในฐานะคณะที่ปรึกษา ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เสนอความเห็นไปยังท่านรัฐมนตรีแล้วว่าเห็นสมควรให้รัฐบาลดำเนินการโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 3 ตั้งแต่ ตุลาคม 2564-มีนาคม 2565 อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการช่วยเหลือเรื่องรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดด้วย”

 

นายสุนทร กล่าวว่า ขอแจ้งพี่น้องชาวสวนยางได้ทราบทั่วกันว่าท่านรัฐมนตรีเฉลิมชัย ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทุกอย่างอยู่ในช่วงของการดำเนินงาน ทั้งการจัดหางบประมาณ 10,000 ล้านบาท และขั้นตอนตามกฎหมายที่การยางแห่งประเทศไทยต้องเสนอโครงการเพื่อขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ  ดังนั้นรบกวนพี่น้องชาวสวนยางช่วยส่งเสียงสนับสนุนโครงการเพื่อให้รัฐบาลอนุมัติ ไม่เสียสละชัยชนะไม่เกิด

 

อย่างไรก็ดียางพาราที่รัฐบาลได้มีการประกันรายได้ มาทั้งในปี 1 และ ปี 2  รวมทั้งปี 3 ด้วย จะมียางพารา  3 ชนิด 

 

1.ยางแผ่นดิบคุณภาพดี ราคา 60 บาทต่อกิโลกรัม

 

2.น้ำยางสด (DRC 100%) ราคา 57 บาทต่อกิโลกรัม

 

3.ยางก้อนถ้วย (DRC 50%) ราคา 23 บาทต่อกิโลกรัม

 

โดยกำหนดปริมาณผลผลิตยางที่จะประกันรายได้ คือ ผลผลิตยางแห้ง (DRC 100%) จำนวนไม่เกิน 20 กิโลกรัม/ไร่/เดือน และผลผลิตยางก้อนถ้วย (DRC 50%) จำนวนไม่เกิน 40 กิโลกรัม/ไร่/เดือน


โครงการประกันรายได้ยางพารา ปี3

เกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนและแจ้งข้อมูลสวนยางไว้กับ กยท. สามารถตรวจสอบสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่2  ได้ที่ลิงค์  http://www.raot.co.th/gir/index/

 

ตรวจสอบสถานะการขึ้นทะเบียนเกษตรกรชาาสวนยาง ประกันรายได้ยางพารา ปี3

 

ทั้งนี้ เกษตรกรยางพารา ชาวสวน สามารถ ตรวจสอบสถานะการโอนเงินประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา แบบอัพเดทได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่ https://chongkho.inbaac.com/

 

ตรวจสอบสถานะการโอนเงิน