"ปตท."ตั้งเป้ามีกำไร 30% ปี73 จากธุรกิจใหม่-พลังงานอนาคต

17 ส.ค. 2564 | 12:28 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ส.ค. 2564 | 19:27 น.

ปตท.ตั้งเป้ามีกำไร 30% ปี73 จากธุรกิจใหม่และพลังงานอนาคต ตามแผนยุทธศาสตร์และทิศทางอนาคต สอดรับวิสัยทัศน์ Powering life with Future Energy and Beyond

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท  ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. เปิดเผยว่า ปตท.ได้มีการปรับกระบวนทัศน์ตั้งแต่การปรับวิสัยทัศน์ใหม่เป็น การขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยการมุ่งสู่ธุรกิจพลังงานอนาคตและเติบโตในธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน( Powering life with Future Energy and beyond) รวมทั้งการปรับพอร์ตการลงทุนพลังงานหมุนเวียน(Renewable)เพิ่มขึ้นจาก 8,000 เมกะวัตต์(MW)เป็น 12,000 เมกะวัตต์ในปี 2573 และเพิ่มพอร์ตการลงทุนในธุรกิจพลังงานอนาคต(Future Energy)และธุรกิจใหม่(New Business)เป็น 32% ของการลงทุนรวม เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี และพลังงาน รวมทั้งสภาวะที่เปลี่ยนแปลงจากผลกระทบโควิด-19 (Covid-19)
ทั้งนี้ ปตท.ได้ทบทวนทำยุทธศาสตร์และทิศทางในอนาคตของกลุ่ม ปตท. (Strategic Thinking Session : STS)ใหม่ในปี 2564-2573 โดยวางเป้าหมายภายในปี2573 กลุ่ม ปตท. จะมีกำไรจากธุรกิจพลังงานอนาคตและธุรกิจใหม่มากกว่า 30% ส่วนการเติบโตของธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) จะเห็นการนำเข้าเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 9,000,000 ตันต่อปี ส่วนธุรกิจไฟฟ้าประเภท Conventional เพิ่มเป็น 8,000 เมกะวัตต์ และพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นเป็น12,000เมกะวัตต์ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 15% เพีอเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
ขณะที่ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของ บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จะเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนโดยเฉพาะแหล่งก๊าซฯ ,ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น จะให้ความสำคัญด้านการบูรณาการห่วงโซ่อุปทาน การมุ่งสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง ,ธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก จะขยายการค้าปลีกที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคและมุ่งสู่ Mobility & lifestyle ด้านธุรกิจไฟฟ้าจะขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าในไทยและต่างประเทศ โดยเน้นพลังงานหมุนเวียน ซึ่งจะเป็นการจับมือระหว่างปตท.กับบมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่(GPSC)ตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อลงทุนพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศ อาทิ อินเดีย ไต้หวัน และจีน เป็นต้น

ส่วนธุรกิจพลังงานอนาคตจะเร่งลงทุนในพลังงานหมุนเวียน ระบบกักเก็บพลังงาน EV value chain รวมไปถึงการศึกษาพลังงานรูปแบบใหม่คือไฮโดรเจน และธุรกิจใหม่ เร่งขยายสู่ธุรกิจที่มีศักยภาพ เช่น Life Science ,Logistic &Infrastructure โดยในช่วง1-2 ปีนี้จะเห็นการลงทุนในธุรกิจใหม่เพิ่มมากขึ้น

วิสัยทัศน์ ปตท.
สำหรับงบลงทุนของ ปตท. และบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% ในช่วง 5 ปีนี้ (2564-68) อยู่ที่ 117,840 ล้านบาท โดยปีนี้ปตทได้ปรับเพิ่มงบการลงทุนจากเดิม 52,931 ล้านบาท เป็น 67,504 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 28% มาจากการเข้าไปซื้อหุ้นบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC จาก บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC

นายอรรถพล กล่าวอีกว่า งบลงทุนของกลุ่ม ปตท.ใน 5 ปีนี้อยู่ที่ 865,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุน ธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นของ ปตท.สผ. 50% ,ปตท. 14% ,ธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย 30% ,ธุรกิจไฟฟ้า 6% และจัดเตรียมงบลงทุนของกลุ่ม ปตท. ในอนาคต (Provisional Capital Expenditure) ในระยะ 5 ปีข้างหน้าอีก 7.84 แสนล้านบาท โดยปีนี้จะเห็นการลงทุน ของบริษัทลูก ปตท. ทั้ง PTTGC ,PTTEP ,TOP และ GPSC ในการเข้าร่วมทุนหรือซื้อกิจการในต่างประเทศหลายโครงการ โดยมีปตท.สนับสนุนด้านเงินกู้ด้วยนั้น ยืนยันว่าจะยังเห็นการลงทุนของกลุ่มปตท.ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยปตท.พร้อมให้การสนับสนุน และยืนยันว่าปตท.ไม่มีแผนเพิ่มทุนจดทะเบียนแต่อย่างใด