"คณิศ" ตั้งเป้ากระตุ้นลงทุนอีอีซีเพิ่มปีละ 1 ล้านล.ดันจีดีพีโต 5%

06 ก.ย. 2564 | 12:47 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ก.ย. 2564 | 19:46 น.

คณิศตั้งเป้ากระตุ้นลงทุนอีอีซีเพิ่มปีละ 1 ล้านล้านบาท หวังดันจีดีพีโตให้ได้ 5% ตามแผนหลังโควิด-19 กระทบหนัก พร้อมเร่งตอกเสาเข็มเมกะโปรเจกต์อีอีซี ทั้งสนามบินอู่ตะเภา-รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน คาดปี 65 อีอีซี จะเป็นตัวหนุนดันจีดีพีของประเทศขยายตัว

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยในงานเสวนา EEC Future : เอกชนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ฟื้นเศรษฐกิจไทย ซึ่งจัดโดย “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า จากการแรพ่ระบาดของโควิด-19 (Covid-19) ส่งผลกระทบทำให้เป้าหมายของการการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี (EEC) ที่ต้องการกระตุ้นผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี (GDP)ให้เติบโต 5% จาก 3% เหลือเพียง 2% เท่านั้น 
ทั้งนี้ เดิมประมาณการณ์ว่าในช่วงแต่ละปีหลังจากนี้ อีอีซีจะดึงเม็ดเงินลงทุนได้ 3-4 แสนล้านบาทต่อปี เพื่อผลักดันจีดีพีให้โตได้ 5% เมื่อมีวิกฤตเกิดขึ้นอีอีซีต้องทำให้ได้มากกว่าเป้าหมาย ดังนั้น อีอีซีในระยะข้างหน้าต้องเพิ่มการลงทุนมากกว่า 1.7 ล้านล้านบาท โดยแผนที่จะทำส่วนหนึ่งจะมาจากการสร้างเมือง เพื่อทำให้เม็ดเงินลงทุนที่ตอนนี้เรามีโครงสร้างพื้นฐานแล้ว เพิ่มขึ้นมาอีกปีละ 2 แสนล้านบาท จากที่ยื่นขอส่งเสริมผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ (BOI)มาปีละ 8 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ดี ต้องเรียนว่าแม้จะมีการแพร่ระบาดโควิด-19 เกิดขึ้น แต่การลงทุนในพื้นที่อีอีซี ยังเดินหน้าไปได้ด้วยดี เห็นได้จากยอดการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน ผ่านบีโอไอ ช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.2 แสนล้านบาท และคาดว่าทั้งปีจะขึ้นไปถึง 3 แสนล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันมีเอกชนหลายที่กำลังขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
"เป้าหมายการลงทุนเมื่อตอนทำแผนพัฒนาอีอีซี ประเมินว่าจะมีมูลค่าการลงทุน 1.7 ล้านล้านบาท โดยขณะนี้อนุมัติการลงทุนไปแล้ว 1.6 ล้านล้านบาท ดังนั้นมูลค่าการลงทุนคงถึงเป้าก่อนกำหนด"
ขณะที่ความคืบหน้าของการพัฒนาอีอีซีนั้น  ปัจจุบันได้ผลักดันในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานไปแล้ว แผนการดำเนินงานขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการดำเนินงาน 2 เรื่องหลัก คือ การชักจูงนักลงทุน จะให้น้ำหนักมากขึ้น และการสร้างวิถีชีวิตแบบใหม่ให้ประชาชน ยกระดับเมือง สร้างเมืองและสิ่งแวดล้อมของเมือง

นายคณิศ กล่าวต่อไปอีกว่า แม้ภาคการท่องเที่ยวยังไม่กลับมาจากผลกระทบของโควิด-19 แต่อีอีซีกำลังจะเติบโต ปีหน้าคาดว่าอีอีซีจะขยายตัวนำจีดีพีประเทศไปได้ โดยจะมาจากการกระตุ้นเม็ดเงินลงทุนในส่วนของอุตสาหกรรมเป้าหมายให้เกิดขึ้น เช่น ศูนย์การแพทย์ เทคโนโลยี 5G ที่ตอนนี้ใช้ได้ 100% ดังนั้นแกนนำอุตสาหกรรมป้าหมาย จะเพิ่มมูลค่าการลงทุนได้อีก รวมไปถึงการทำคลัสเตอร์เกษตร และการพัฒนาเมืองร่วมกับจังหวัด
ส่วนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน หลังจากสถานการณ์โควิด -19 คลี่คลาย ในปลายปีนี้ อีอีซีจะเริ่มทำโรดโชว์ท่าอากาศยานอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก รวมทั้งจะเปิดหน้าดินให้โครงการโครงสร้างพื้นฐานเริ่มงานก่อสร้าง โดยภายในปีนี้จะเริ่มเห็นการเปิดหน้าดินเป็นเรื่องราวทั้งรถไฟความเร็วสูง และสนามบินอู่ตะเภา