นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยในการเสวนาเรื่อง “จับคู่กู้เงิน สร้างพลังคนตัวเล็ก ฟื้นเศรษฐกิจ” ในงานสัมมนา “จับคู่ กู้เงิน คลายทุกข์ SMEs” ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs) มีการใช้งานระบบค้าขายบนออนไลน์เพียง 40-50% เท่านั้นจากเอสเอ็มอีทั้งหมดในประเทศไทย ซึ่งมีอยู่ประมาณ 3.1 ล้านราย จากการสำรวจของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
ทั้งนี้ ส่งผลให้เอสเอ็มอีไม่สามารถเข้าถึงตลาดของผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่นิยมบริโภคสินค้าผ่านระบบออนไลน์จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 (Covid-19) ที่เป็นปัจจัยเร่งให้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการค้าขายมากขึ้น ดังนั้น บทบาทของ SME D Bank จึงไม่ใช่เพียงแค่เข้าไปสนับสนุนทางด้านเงินทุนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเข้าไปมีส่วนช่วยผลักดันให้เอสเอ็มอีเข้าสู่แพลตฟอร์มการค้าขายออนไลน์
“บทบาทของการเป็นเดลเวลลอปเม้นท์แบงก์ก็คือกการทำให้เอสเอ็มอีรู้จักช่องทางการตลาดใหม่ และเตรียมตัวเองให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง โดยเราจะต้องเข้าไปยกระดับรายเล็กให้แข็งแรง และผลักดันให้ไปสู่ตลาดส่งออก เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าต่างประเทศด้วย”
นางสาวนารถนารี กล่าวต่อไปอีกว่า ปัจจุบันโอกาสของเอสเอ็มอีที่ไม่ได้มีแค่ตลาดในประเทศเท่านั้น จากโลกที่เปิดกว้างเอสเอ็มอีต้องมองไปยังตลาดต่างประเทศ ไม่ใช่มองแค่ผู้บริโภคภายในประเทศ หรือมองแค่แพลตฟอร์มที่ค้าขายในประเทศ แต่ต้องมองหาโอกาสจากประเทศอื่น ตามความต้องการของผู้บริโภคแต่ละประเทศ โดย SME D Bank ได้ดำเนินการจัดทำแพลตฟอร์มขึ้นมา ซึ่งมีเนื้อหาในการให้ความรู้กว่า 150 เรื่อง ซึ่งมีการวบรวมองค์ความรู้ที่น่าสนใจ ทั้งเรื่องของการเขียนแผนธุรกิจ การตลาดแบบใหม่ การบริหารจัดการด่านการเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเอสเอ็มอี
“เอสเอ็มอีจะต้องรู้พฤติกรรมของผู้บริโภคแต่ละประเทศ เพื่อทำการตลาดได้อย่างถูกต้อง โดยบางประเทศอาจจะชอบแบบไม่ต้องสวยแต่ได้ปริมาณมาก ราคาถูก ผลิตภัณท์แตกหักบ้างไม่เป็นไร บางประเทศต้องสวยต้องเป๊ะ เอสเอ้มอีจะต้องรู้เพื่อที่จะได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ ยกระดับตนเองให้เหมาะสมกับประเทศที่จะไป”