ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาสังคม จังหวัดตรัง ผลักดันให้เปิดท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยวทางทะเล 2 แห่งในจังหวัดตรัง คือ พัฒนาท่าเรือพาณิชย์ที่ 3 ของเทศบาลเมืองกันตัง ที่ปัจจุบันปล่อยทิ้งร้างไม่ใช้ได้งาน และท่าเรือปากเมง อ.สิเกา
เพื่อเป็นฮับการท่องเที่ยวทางทะเลเชื่อมโยงเกาะแก่งต่าง ๆ ครอบคลุมทั่้วทะเลอันดามัน จะช่วยยกระดับศักยภาพการท่องเที่ยวให้พื้นที่ สนับสนุนแผนเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจสังคม
โดยได้ทำหนังสือถึงดร.นาที รัชกิจประการ ประธานคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(นายอนุทิน ชาญวีรกุล) ให้มาดูพื้นที่ไปแล้วนั้น
ล่าสุด ดร.นาที รัชกิจประการ ประธานคณะที่ปรึกษารองนายกฯ ได้นำคณะลงพื้นที่อำเภอกันตังและอำเภอสิเกา จังหวัดตรัง โดยนายลือพงษ์ อ๋องเจริญ ประธานกรรมการ บริษัทประชารัฐรักสามัคคีตรัง(วิสาหกิจเพื่อสังคม)จำกัด และนายสรนนท์ จิโรจน์มนตรี นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกันตัง ร่วมให้ข้อมูลเพิ่มเติม
ด้วยบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีตรัง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจังหวัดตรัง สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดตรัง และ สมาคมท่องเที่ยวและโรงแรมจังหวัดตรัง ได้วางตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ ในการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวโซนทะเล จังหวัดตรัง โดยเสนอให้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการท่องเที่ยวเกาะแก่งในทะเลอันดามัน คือ ท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยว
ท่าเรือพาณิชย์ที่เทศบาลเมืองกันตังดูแลจำนวน 3 สะพาน ขณะนี้ทิ้งร้างไปหลายปี เพราะไม่มีผู้เข้ามาใช้บริการ ประกอบกับภาคเอกชนหันไปสร้างท่าเทียบเรือเป็นของตนเอง ถึง 4 ราย ในเขตบริการของศุลกากรกันตัง
เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด กรมเจ้าท่า เทศบาลเมืองกันตัง หารือกับภาคเอกชนในเบื้องต้น มีแผนจะปรับปรุงเป็นท่าเรือท่องเที่ยว โดยใช้สะพานตัวที่ 3 ขนาดกว้าง 24.50 เมตร ยาว 90.00เมตร ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของท่าเรือกันตัง มาเปิดบริการ
จะสามารถรองรับการเดินเรือในทะเลอันดามัน อาทิ เส้นทางไปภูเก็ต กระบี่ สตูล จนถึงประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เมียนมา มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เป็นการต่อยอดเมืองเก่ากันตัง ซึ่งสามารถเชื่อมโยงทั้งการเดินทางทางรถไฟ หรือเครื่องบินได้สะดวก ให้เป็นฮับการท่องเที่ยวทะเลอันดามันอีกแห่ง
อีกจุดคือท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยวหาดปากเมง อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ นายลือพงษ์ อ๋องเจริญ ประธานกรรมการ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีตรัง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด นำคณะลงพื้นที่ ให้ข้อมูลว่า กรมเจ้าท่าจัดงบประมาณสำหรับการก่อสร้าง 140 ล้านบาท เนื่องจากเดิมสะพานเก่าคับแคบไม่ปลอดภัย
เมื่อครั้ง นายธีรยุทธ เอี่ยมตระกูล เป็นผู้ว่าฯ ราชการจังหวัดตรัง ได้ผลักดันจนกรมอุทยานฯ อนุญาตให้มีการก่อสร้างปรับปรุงท่าเรือแห่งนี้ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมได้ ทำให้เป็นท่าเรือที่มีศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยวในแถบ ตรัง กระบี่ สตูล
ซึ่งทางผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวทะเลตรัง มีแผนจะเปิดให้บริการกับนักท่องเที่ยว วันที่ 1 ตุลาคม 2564 นี้ สอดรับนโยบายของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมตรัง จะเปิดพื้นที่บริการนักท่องเที่ยวในเขตอุทยาน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึง 31 พฤษภาคม ของทุกปี
นอกจากนี้ยังเสนอให้ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมเชื่อมโยงการเดินทางอื่น ๆ อาทิ ขยายถนนเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยว การตัดถนนเข้าสู่ท่าเรือพาณิชย์ในการขนส่งสินค้า(ด้านโลจิสติกส์) การตัดถนนสร้างสะพานข้ามแม่น้ำปะเหลียน เชื่อมอำเภอกันตัง กับ อำเภอหาดสำราญ ที่จะช่วยร่นระยะทางได้ถึง 62 กิโลเมตร ได้ประโยชน์ทั้งการเดินทางสัญจร การขนส่งสินค้า และเปิดเส้นทางท่องเที่ยว
ภาคเอกชนจังหวัดตรัง ขอให้ดร.นาที ประธานคณะที่ปรึกษารองนายกฯ ช่วยประสานกระทรวงคมนาคมและกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ให้การสนับสนุนงบประมาณแผ่นดินในการพัฒนาการท่องเที่ยวโซนทะเล จังหวัดตรัง ซึ่งประธานคณะที่ปรึกษาฯ รับจะนำข้อมูลทั้งหมดเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ธีมดี ภาคย์ธนชิต/รายงาน