รายงานข่าวระบุว่า วันนี้ (4 ต.ค.64) คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานจะมีการประชุมนัดพิเศษ ในการพิจารณาแนวทางดูแลราคาก๊าซหุงต้ม หรือแอลพีจี (LPG) และน้ำมันดีเซลบี10 ซึ่งเป็นน้ำมันฐาน เพื่อดูแลประชาชนไม่ให้รับผลกระทบจากสถานการณ์ราคาพลังงานในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้ สถานการณ์กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุด บัญชีแอลพีจีติดลบกว่า 1.7 หมื่นล้านบาทจากการอุดหนุนราคา จนใกล้เพดานที่กำหนดคือ 1.8 หมื่นล้านบาท ขณะที่บัญชีน้ำมันเป็นบวกกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท
สำหรับเบื้องต้นนั้น ในที่ประชุม กบง. จะเสนอให้มีการแยกบัญชีระหว่างแอลพีจีและน้ำมันออกจากกันเด็ดขาด จากนั้นจะเสนอให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ (สศช.) อนุมัติวงเงินจาก พ.ร.ก. กู้เงินเพิ่มเติม 5 แสนล้านบาท มาช่วยเหลือเป็นเวลา 4 เดือน หรือระหว่างเดือนตุลาคม 2564-มกราคม 2565 เพื่อคงราคาขายปลีกก๊าซหุงต้มสำหรับถังขนาด 15 กิโลกรัมอยู่ที่ 318 บาทต่อถัง (ไม่รวมค่าขนส่ง)
อย่างไรก็ดี การช่วยเหลือดังกล่าวจะช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มครัวเรือนเท่านั้นไม่รวมภาคขนส่ง ขณะที่การดูแลราคาน้ำมันนั้นจะกรอบการดูแลชัดเจนโดยใช้เงินกองทุนฯในการดูแลอย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อคงราคาดีเซลบี 10 ไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรต่อไป