นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า กทพ.เร่งดำเนินการลดอุบัติเหตุบนทางด่วน โดยติดตั้งกล้องตรวจจับความเร็ว และกล้องจับรถที่วิ่งทับช่องไหล่ทาง เบื้องต้นในปีนี้กทพ.เตรียมงบประมาณ จำนวน 29 ล้านบาท เพื่อติดตั้งระบบกล้องตรวจจับความเร็ว และกล้องตรวจจับรถที่ฝ่าฝืนวิ่งในช่องไหล่ทาง บนทางพิเศษเพิ่มเติม
ขณะเดียวกันตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. 64 ที่ผ่านมา กทพ.ได้ประสานส่งข้อมูลจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพทะเบียนรถที่กระทำความผิด ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เริ่มดำเนินการออกใบสั่งส่งไปยังบ้านเจ้าของรถ เบื้องต้นพบว่าตั้งแต่ วันที่ 5 เม.ย.64 ซึ่งเป็นวันแรกของการเชื่อมโยงข้อมูลผู้กระทำความผิดให้ตำรวจ หรือในช่วง 5 เดือนแรก คือตั้งแต่วันที่ 5เม.ย. -ส.ค.64 ตำรวจได้ดำเนินการปรับ และจับกุมรถยนต์ที่ฝ่าฝืนขับเร็วและวิ่งทับช่องไหล่ทาง ไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 217,316 คัน แบ่งออกเป็น 2 ข้อหาคือ 1.ขับรถเร็วกว่ากฎหมายกำหนดตำรวจดำเนินการปรับ และจับกุมแล้ว จำนวน 197,661 คัน ประกอบด้วย การกระทำความผิดบน ทางพิเศษเฉลิมหานคร จำนวน 45,400 คัน และทางพิเศษบูรพา จำนวน 152,261 คัน และ2.ข้อหาขับรถรถวิ่งทับช่องไหล่ทาง บนทางพิเศษกาญจนาภิเษก จำนวน19,655 คัน
อย่างไรก็ตาม กทพ.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะประสานข้อมูลกันอย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อแก้ปัญหาการขับรถเร็วบนทางด่วน เพื่อเร่งลดอุบัติเหตุซึ่งเป็นที่มาของความสูญเสีย สำหรับอัตราความเร็วของรถยนต์บนทางด่วน ปัจจุบันกำหนดให้รถสามารถทำความเร็วบนทางพิเศษ เสน้ทางช่วงในเมืองได้ไม่เกิน 80 กม./ชม. และช่วงนอกเมืองไม่เกิน 90 กม./ชม