“จุรินทร์” หนุน “นายกรัฐมนตรี” เปิดประเทศ ปลุก จีดีพีท่องเที่ยวฟื้น

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ เปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ โดยไม่ต้องกักตัว นำร่อง 10 ชาติแรก พร้อมแถลงความสำเร็จในการคุมโควิดและการฉีดวัคซีนสำเร็จ ซึ่งประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 10 ประเทศของโลก ที่ฉีดวัคซีนเร็วที่สุด ต่อจากกรณีนี้นั้น

นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า เห็นด้วย เพราะหลักสำคัญที่ตนเคยพูดมาเสมอคือ ต้องนำเศรษฐกิจฝ่าวิกฤติโควิดไปให้ได้ ซึ่งต้องยอมรับความจริงว่า 2 เครื่องยนต์หลักในระยะเวลาที่ผ่านมาที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจคือการส่งออก กับการท่องเที่ยว ซึ่งเมื่อเราประสบปัญหาโควิด ทำให้เราเหลือเครื่องยนต์สำคัญคือการส่งออก

“ส่วนการท่องเที่ยวนั้นก็หายไปมาก จากการได้ไปดูตัวเลขก่อนเกิดโควิด การท่องเที่ยวของเราคิดเป็นประมาณ 11% ของ จีดีพี พอช่วงวิกฤติโควิดมาจนถึงวันนี้เหลือเพียง 1% กว่าๆ ขณะที่การส่งออกจาก 45% ของจีดีพี เพิ่มไปเป็น 51% ซึ่งถือว่าการส่งออกเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา แต่ถ้าเราเปิดประเทศ และเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศมากขึ้น โดยมีเงื่อนไขเรื่องการดูแลโควิดควบคู่ไปด้วย ก็จะช่วยให้จีดีพีของเราเพิ่มขึ้นได้ คือมีตัวเติมเข้ามาอีกตัวหนึ่งคือการท่องเที่ยว”

อย่างไรก็ดีต่อ สถานการณ์โควิดในปัจจุบันถือว่าสามารถควบคุมได้แล้วใช่หรือไม่นั้น รองนายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้กระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้ตอบ แต่ก็ดูสถานการณ์ว่าค่อยๆ ดีขึ้น แต่การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจก็ต้องทำควบคู่กันไป เหมือนที่เคยพูดหลายครั้งว่า เราต้องดูว่าสมดุลนั้นอยู่ตรงไหนระหว่างโควิดกับเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ต้องแก้ ทั้ง 2 ข้อ เป็นโจทย์ที่ทับซ้อนกันอยู่

“ถ้าเราจะดูเพียงโควิดอย่างเดียวโดยไม่ดูเศรษฐกิจก็ลำบากจะดูแต่เศรษฐกิจไม่สนใจโควิด คนก็จะเดือดร้อนเรื่องสุขภาพ อาจเสียชีวิตเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นก็ต้องดูให้สมดุล ท่านนายกฯ ในฐานะผู้นำรัฐบาลก็ต้องตัดสินใจและต้องพิจารณา เมื่อท่านพิจารณาแล้วว่า วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ สามารถเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาโดยลดเงื่อนไขต่างๆ ที่เป็นข้อจำกัดอยู่ได้ ก็ต้องฟังท่าน” รองนายกรัฐมนตรีกล่าว